(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 36.26 อ่อนค่าจากวานนี้หลังดอลลาร์แข็งค่าจากกังวลความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 3, 2022 11:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.26 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อน ค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.13 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาคและทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็ง ค่า

โดยดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับขึ้นของบอนด์ยีลด์ หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนยืนยันเรื่องการเดินหน้าปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ ประกอบกับนักลงทุนมีความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐกรณีไต้ หว้นที่อาจเกิดความรุนแรงขึ้นอีกแห่ง ขณะที่สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังมีแนวโน้มยืดเยื้อ ไม่คลี่คลายในเร็ววัน

"บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ตามตลาดโลก หลังดอลลาร์แข็งค่าจากการปรับขึ้นของบอนด์ยีลด์และความกังวลเรื่อง สถานการณ์ไต้หวัน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.20 - 36.35 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้ ทั่วโลกจับตาดูสถานการณ์ในไต้หวันอย่างเดียว ยังไม่มีประเด็นอื่น" นักบริหารเงิน กล่าว

THAI BAHT FIX 3M (2 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.33916% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.68617%

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 36.18750 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 130.62 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 130.86 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0149 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0233 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.087 บาท/
ดอลลาร์
  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถานบัน (กกร.) เตรียมแถลงผลประชุมประจำเดือน ส.ค.65 เพื่อประเมิน
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคต และผลกระทบในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งในเดือน ก.ค.65 ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ไว้ที่ 2.75-
3.6% อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 5-7% และการส่งออกขยายตัว 5-7%
  • นายกฯ ชี้ ศก.ไทยโตต่อเนื่อง 3.3% คาดปีหน้าแตะ 4.2% ผลจากเอกชนฟื้นตัว-นักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 6 ล้าน
คน ส่งออกขยายตัว 7.9% เตรียมกดอัตราเงินเฟ้อ จาก 6.2% เหลือ 2.5% ภายในปี 66 พร้อมฝากการบ้านทุกกระทรวง หา
มาตรการช่วยเหลือประชาชน หลังทั่วโลกเผชิญภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่ ครม.อนุมัติงบกลาง 1,249 ล้าน ทำโครงการพัฒนาอาชีพ
เสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม คาดเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 12,490 ล้าน
  • หอค้าไทยเร่งโรดโชว์ต่างประเทศ ช่วง 4-6 ส.ค. นำคณะธุรกิจเยือนกัมพูชา เตรียมหารือเพิ่มการค้าชายแดน
และนำเข้าแรงงานต่างด้าว รองรับการฟื้นตัวกิจกรรมเศรษฐกิจและท่องเที่ยวปลายปี เล็งเปิดการค้าเพิ่มกับแอลจีเรีย-ซาอุดีฯ
รอบ 2 'สนั่น' มั่นใจจีดีพีโตแน่ 3%
  • กกพ.แจ้ง 3 การไฟฟ้า เตรียมขึ้นค่าเอฟทีงวดใหม่ ก.ย.-ธ.ค. ปี 65 ที่ 68.66 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นค่าไฟ
รวมเฉลี่ย 4.72 บาทต่อหน่วย อ้อนแม้ค่าไฟและค่าเอฟทีจะทำนิวไฮ แต่ปรับในอัตราต่ำที่สุดแล้ว ส่วนงวด ม.ค.-เม.ย.ปี 66 รอ
ลุ้นแหล่งเอราวัณอ่าวไทย ผลิตก๊าซเพิ่มได้ตามแผนไหม ด้านยอดใช้น้ำมัน 6 เดือนแรกของปีเพิ่ม 12.4% ดันยอดนำเข้าน้ำมันดิบ
ทะลัก 6.28 แสนล้าน
  • สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรง
งาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 605,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ
10.7 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2564 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ
11.14 ล้านตำแหน่ง
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (2 ส.
ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีน
และสหรัฐ หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันและสร้างความไม่พอใจให้กับจีน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันอังคาร (2 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำใน
ฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากนางแนนซี เพโลซี
ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวัน
  • กระทรวงการต่างประเทศจีน ออกแถลงการณ์ประณามการเยือนไต้หวันของนางเพโลซี โดยระบุว่า จีนจะใช้
มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนเพื่อตอบโต้การเดินทางครั้งนี้ และสหรัฐจะต้องรับผิดชอบต่อ
ผลที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งยุติการแทรกแซงกิจการภายในของจีน
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อเป็น

สัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ