นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า กรุงศรี รู้สึกยินดีที่ได้เป็นหนึ่งในธนาคารแรกของประเทศไทย ที่จะเปิดทดสอบบริการ Retail CBDC สกุลเงินดิจิทัลภาคประชาชนในระยะนำร่องช่วงปลายปี 2565 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยเป็นการเปิดทดลองใช้งานในวงจำกัด ถือเป็นก้าวสำคัญในการศึกษา เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาและขยายผลการใช้งานในระยะต่อไป
ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้านการเงินของประเทศไทย กับเงินบาทดิจิทัลภาคประชาชน (Retail CBDC) ที่ออกโดยธปท. โดยเปลี่ยนรูปแบบธนบัตรปกติ เป็นเงินบาทดิจิทัล ซึ่งมี serial number กำกับ ทำให้การถือ Retail CBDC เทียบเท่ากับการถือธนบัตร และไม่มีความเสี่ยง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล
สิ่งนี้จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานระบบชำระเงินใหม่ที่เข้าถึงง่าย มีความปลอดภัยสูง และสามารถรองรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาต่อยอดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากประโยชน์ที่ภาคประชาชนจะได้รับแล้ว ยังเอื้อให้ภาคธุรกิจสามารถต่อยอด และพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเตรียมพร้อมในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต
นายสยาม กล่าวว่า แผนการทดสอบ Retail CBDC ระยะนำร่องที่กรุงศรีเข้าร่วม แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ 1. การทดสอบระดับพื้นฐาน (Foundation track) เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบ รวมถึงรูปแบบของการนำเทคโนโลยีมาใช้งานจริงกับประชาชนรายย่อย เป็นการทดสอบใช้ชำระค่าสินค้าบริการในพื้นที่เฉพาะ และ 2. การทดสอบระดับนวัตกรรม (Innovation track) เป็นการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่หลากหลาย เพื่อนำมาปรับปรุงการออกแบบ Retail CBDC ในอนาคตต่อไป
กรุงศรี มีความพร้อมและจะเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินหลัก ที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้ประชาชนไทยได้รู้จัก และเรียนรู้เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง หากมีการนำมาใช้ชำระจริงในอนาคต
"การพัฒนา Retail CBDC เป็นเรื่องที่ธนาคารทั่วโลกให้ความสนใจ และมีศักยภาพ เนื่องจากเป็นเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศ มีความปลอดภัยสูง สะดวก ค่าเงินไม่มีความผันผวน" นายสยามกล่าว
ทั้งนี้ 1 CBDC เท่ากับ 1 บาท และสามารถเปลี่ยนกลับเป็นเงินสดได้ทันที อีกทั้งยังสามารถต่อยอดนวัตกรรมการชำระเงินใหม่ ๆ ได้ เช่น การชำระสินค้าแบบกำหนดเงื่อนไข (Programmable Payment) ซึ่งกรุงศรีเชื่อว่าจะเป็นการพลิกโฉมระบบการเงินใหม่แห่งโลกอนาคตให้กับประเทศไทย