(เพิ่มเติม1) นักเศรษฐศาสตร์ SCB มองบาทปีนี้มีโอกาสแข็งค่าแตะ 30 บาท/ดอลลาร์

          นายณัฐวุฒิ สัจจพุทธวงค์ นักเศรษฐศาสตร์การเงินอาวุโส กลุ่มบริหารการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) คาดว่า เงินบาทในปีนี้จะแข็งค่าไปแตะระดับกว่า 30 บาท/ดอลลาร์ หรือแข็งค่าจากสิ้นปีีก่อนประมาณ 10% เนื่องจากประเมินว่าจะมีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
          อนึ่ง ในวันนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จัดสัมมนาในหัวข้อ“ กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน "
          นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า  การแข็งค่าเงินบาทดังกล่าวเป็นผลจากการอ่อนค่าต่อเนื่องของดอลลาร์สหรัฐ จากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มการเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงและยาวนานขึ้น ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก กดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง 
          ประกอบกับ คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าไทยตลอดทั้งปีประมาณ 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยจะยังคงเกินดุลการค้า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และเมื่อรวมกับการเกินดุลบริการ รายได้และเงินโอนจำนวน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทำให้ไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดทั้งสิ้น 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้จะเป็นอัตราการเกิดดุลที่ลดลงจากปีก่อนก็ตาม 
          นอกจากนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนโดยตรง(FDI) 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และเงินลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 
          อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ การแข็งค่าเงินหยวน ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปยังค่าเงินในภูมิภาคด้วย เนื่องจากการขยายตัวที่ดีของเศรษฐกิจจีนและมีการเกินดุลการค้าในระดับสูง อีกทั้งยังมีเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังต้องติดตามปัญหาราคาน้ำมันและนโยบายด้านอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
           ขณะที่นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)คาดว่าปีนี้ไทยจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงเหลือ 4.5-7 พันล้านเหรียญ สรอ. ขึ้นอยู่กับปัจจัยราคาน้ำมันเป็นหลัก เนื่องจากขณะนี้ราคาแตะไปถึง 100 เหรียญ/บาร์เรลไปแล้ว นอกจากนั้นจะต้องดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกินดุลลดลง หากกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้น ประเด็นต่างๆ เหล่านี้เป็นเหตุผลที่ทำให้ธปท.ตัดสินใจยกเลิก 30%