น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารสำคัญหรือครัวของโลก โดยยึดหลักอาหารปลอดภัย (Safety) ความมั่นคงทางอาหาร (Security) และความยั่งยืนยัน (Sustainability) ซึ่งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความมั่นคงอาหาร โดยให้ความสำคัญกับการจัดการระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกันทั้งระบบ (BIG DATA) เพื่อคาดการณ์ปริมาณการผลิตสินค้าเกษตรแบบรายชนิดสินค้า และวางแผนรับมือสถานการณ์ความเสี่ยงต่างๆ
ในส่วนของผลผลิตกุ้งทะเลที่ผ่านมาประเทศไทยมีการผลิตเป็นอันดับ 5 ของโลก แต่จากการระบาดของโรคตายด่วนในปี 2564 ทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมากเหลือเพียง 2.54 แสนตัน จากเฉลี่ย 3 ปีก่อนหน้าอยู่ที่ 2.8 แสนตัน รมว.เกษตรฯ จึงได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลของประเทศในพื้นที่ 35 จังหวัด โดยตั้งเป้าปี 2566 ไว้ที่ 4 แสนตัน ทั้งนี้ กรมประมงได้ดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการจัดการข้อมูลเพื่อการบริหารแบบรอบด้าน ครอบคลุมการกำหนดแผนเชิงรุก นโยบายการช่วยเหลือเกษตรกรกรณีความเสี่ยงต่างๆ การศึกษาวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาโรคระบาดกุ้ง การปรับปรุงพันธุ์กุ้งทะเล การส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมเพื่อการผลิตกุ้งทะเล การฟื้นฟูพื้นที่การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลเสื่อมโทรมร่วมกับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม การจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับเกษตรกร การส่งเสริมและหาช่องทางการตลาดเพิ่มเติมเพื่อรองรับผลผลิตกุ้งทะเลที่เพิ่มขึ้น
สำหรับการอนุญาตให้ผู้ประกอบการห้องเย็นและโรงงานแปรรูปสามารถนำเข้ากุ้งทะเลจากเอกวาดอร์และอินเดียนั้น ทางกรมประมงยืนยันว่าไม่กระทบต่อราคากุ้งในประเทศอย่างแน่นอน เพราะเป็นการอนุญาตให้เฉพาะช่วงเวลาที่ผลผลิตภายในประเทศมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอการแปรูปเท่านั้น โดยห้องเย็นและโรงงานแปรรูปจะต้องรับซื้อผลผลิตกุ้งทะเลจากเกษตรกรโดยประกันราคาซื้อ-ขายขั้นต่ำ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาไว้ ทั้งนี้ มีการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรไปแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.64 ส่งผลให้ราคากุ้งทะเลเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ทางกรมประมงได้ดำเนินการอย่างรัดกุม มีการประเมินระบบการควบคุมโรคของทั้ง 2 ประเทศ ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลแช่แข็งสำหรับการส่งออกมายังประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีโอกาสเกิดการแพร่กระจายเชื้อก่อโรคข้ามพรมแดนอย่างเด็ดขาด
"นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพการผลิตกุ้งทะเลของเกษตรกร และพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรฯได้กำหนดกลไกขับเคลื่อนการฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลไทย ตั้งเป้า 4 แสนตันในปี 2566 ผ่านคณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp Board) และคณะทำงานแก้ไขปัญหาการเลี้ยงกุ้งทะเล ระดับพื้นที่ครอบคลุม 35 จังหวัดที่มีการเลี้ยงกุ้งทะเล มุ่งเป้าเกษตรกรมีความมั่นคงในอาชีพและรายได้ รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องเติบโต และเมื่อเราสามารถเพิ่มผลผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรมแปรรูป ก็ไม่มีความจำเป็นต้องนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศอีกต่อไป" น.ส.รัชดา กล่าว