กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 35.35-36.10 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 35.59 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 35.54-36.36 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วตามราคาทองคำในตลาดโลกที่วิ่งขึ้นและราคาน้ำมันดิบดิ่งลง อีกทั้งแรงซื้อเงินบาทจากระดับที่อ่อนค่าอย่างมากก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ผู้ร่วมตลาดบางส่วนตัดขาดทุน เงินดอลลาร์ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญในช่วงท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในช่วงแรก ตลาดเทขายดอลลาร์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ค่าเงินดอลลาร์สามารถพลิกกลับมาลดช่วงลบได้ทั้งหมด หลังข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรและค่าจ้างเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาด และส่งผลให้ตลาดมองว่ามีโอกาสสูงขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 75bps อีกครั้งในเดือนกันยายน
ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ขึ้นดอกเบี้ย 50bps ซึ่งเป็นการขึ้นต่อหนึ่งรอบประชุมมากที่สุดใน 27 ปี สู่ระดับ 1.75% เพื่อลดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นใกล้ 13% เนื่องจากการทะยานขึ้นของราคาพลังงาน โดยบีโออีเตือนว่าอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปลายปีนี้ และจะยังไม่ฟื้นตัวจนกว่าต้นปี 2567 รวมถึงคาดว่าเงินเฟ้อจะลดลงอย่างมากเมื่อภาวะถดถอยฉุดรั้งอุปสงค์ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 4,125 ล้านบาท แต่มียอดขายพันธบัตร 1,073 ล้านบาท โดยเกิดจากตราสารครบอายุ 7,811 ล้านบาท
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะติดตามดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อการคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายของเฟดและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ หลังจากการจ้างงานเพิ่มขึ้นชดเชยตำแหน่งงานที่หายไปในช่วงวิกฤติโรคระบาดได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกรณีไต้หวัน จะทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวังมากขึ้น อนึ่ง ในภาพใหญ่เราคาดว่าข้อมูลเงินเฟ้อจะเป็นตัวตัดสินทิศทางค่าเงินดอลลาร์ต่อไป
สำหรับปัจจัยในประเทศ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะขึ้นดอกเบี้ย 25bps สู่ระดับ 0.75% ในวันที่ 10 สิงหาคม โดยจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ธันวาคม 2561 ตลาดจะให้ความสนใจกับรายละเอียดของผลโหวตและการประเมินทิศทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 7.61% y-o-y ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ แต่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในอัตรา 2.99%