นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย นำทีมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกว่า 20 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล โดยมีนายสมหมาย เอี่ยมสะอาด ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการใน 5 ข้อเสนอ ดังนี้
1.ขอให้สินค้ากุ้งเป็นวาระแห่งชาติ ให้รัฐบาลเห็นความสำคัญ มีมาตรการการผลิตกุ้งในประเทศ เป้าหมายผลผลิตกุ้ง 400,000 ตัน เพื่อการส่งออกให้ได้ในปี 66 อย่างเป็นรูปธรรม (ผลผลิตไม่ใช่มาจากการนำเข้า) สินค้ากุ้งเคยเป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้เข้าประเทศได้ปีละมหาศาลมาอย่างต่อเนื่องกว่า 100,000 ล้านบาท ในปี 53 จากที่ผลิตกุ้งได้ถึง 640,000 ตัน แต่หลังจากประสบปัญหาโรคตายด่วน หรือ EMS และโรคอื่นๆ ตั้งแต่ปลายปี 54 ผลผลิตกุ้งต่ำกว่า 3 แสนตัน และตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ไทยสูญเสียโอกาสรายได้กว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้
สมาคมจึงขอให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้มีทุกภาคส่วนสำคัญ อาทิ ภาคการผลิต-เกษตรกร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ฯลฯ มาบูรณาการทำงานร่วมกัน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด ฉับไว มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องเกษตรกร และสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมได้เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง รวมถึงความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมกุ้งของประเทศ
"ยืนยันได้ว่า 10 ปี หลังเกิดโรคระบาดในกุ้ง อุตฯกุ้งไทย สูญเสียโอกาส-รายได้จากการส่งออกถึง 500,000 ล้านบาท ที่น่าห่วงอย่างยิ่งคือถึงวันนี้ยังแก้ปัญหาไม่ได้ วิธีที่รัฐพยายามช่วยยังไม่ตอบโจทย์ อีกทั้งการที่สื่อต่างประเทศได้เผยแพร่ข่าวว่ารัฐบาลของเอกวาดอร์ได้ประกาศให้กุ้งเอกวาดอร์สามารถส่งออกไปยังตลาดประเทศไทยได้อีกครั้ง เพราะเอกวาดอร์สามารถดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัย และความปลอดภัยทางชีวภาพได้ กรมประมงไทยยอมรับ และมีประกาศอนุญาตให้มีการนำเข้ากุ้งจากเอกวาดอร์ และอินเดียนั้น สมาคมเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวอย่างยิ่งต่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมกุ้งไทยในระยะยาว อาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ แบรนด์สินค้ากุ้งไทย (Branding) ความเชื่อมั่นในสินค้ากุ้งไทยของผู้นำเข้าและผู้บริโภค ที่สำคัญส่งผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งภายในประเทศในระยะกลาง และระยะยาว เช่น ส่งผลกระทบโดยตรงราคากุ้งภายในประเทศ อาจนำกุ้งที่ติดเชื้อแฝง ความเสี่ยงนำโรคเก่า โรคใหม่เข้ามาเข้าประเทศ สร้างความเสียหาย ทำให้เกษตรกรในประเทศอ่อนแอ ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการพัฒนาให้เข้มแข็ง และมีความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงโอกาสที่อุตสาหกรรมกุ้งของประเทศจะได้รับการพัฒนาด้านต่างๆ น้อยลง"
2. แก้ไขปัญหาเรื่องโรค ให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงกุ้งได้โดยเร็วที่สุด โดยจัดสรรงบประมาณ บุคลากร ฯลฯ ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อดำเนินการศึกษาวิจัย การดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาโรคให้สำเร็จ
3. สินค้ากุ้งเป็นสินค้าสำคัญของประเทศ จำเป็นต้องได้รับการปกป้องดูแลอย่างเข้มแข็งจากรัฐ การนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศเป็นเรื่องอ่อนไหวที่สุด ขอให้ช่วยดูแล ปกป้อง สนับสนุนส่งเสริมภาพลักษณ์ แบรนด์สินค้ากุ้งไทย (Branding) ให้เป็นที่ยอมรับ รวมถึงเรื่องเชื้อโรคกุ้งที่มีอยู่ปัจจุบัน และโรคอุบัติใหม่ที่อาจแฝงมากับกุ้งนำเข้า
"วันนี้สมาคมกุ้งไทย และเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งมายื่นหนังสือเรียนนายกรัฐมนตรี มาด้วยความห่วงใยอุตสาหกรรมกุ้ง และหวังที่จะได้รับความเมตตาอนุเคราะห์จากนายกฯ มานำทัพช่วยแก้วิกฤตปัญหาเรื่องโรคให้กับผู้เลี้ยงกุ้ง ด้วยมาตรการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมเต็มกำลัง ดึงภาคสำคัญมาร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการ ซึ่งจะช่วยพลิกฟื้นกุ้งไทยให้สามารถมีวัตถุดิบจากการเพาะเลี้ยงภายในประเทศ เฉพาะเพื่อการส่งออกให้ได้ที่ 400,000 ตัน ภายในปี 2566 นำรายได้เข้าประเทศปีละเกือบแสนล้าน หรือกว่าแสนล้านบาทได้ เพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมกุ้งของประเทศโดยรวมอย่างแท้จริง" นายเอกพจน์ กล่าว