นักวิเคราะห์คาดยอดส่งออกของญี่ปุ่นลด เหตุแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐซบเซา

          ยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นในก.พ.2551 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับในปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากยอดส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆในเอเชียและยุโรปที่แข็งแกร่งได้ช่วยชดเชยความต้องการสินค้าของสหรัฐที่ชะลอตัว แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยอดส่งออกของประเทศอาจจะลดลง อันเป็นผลมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซา
          กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นในเดือนก.พ.2551 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% จากระดับในปีก่อนหน้านี้ แตะระดับ 9.69 แสนล้านเยน แต่ต่ำกว่าที่การคาดการณ์ของตลาดในผลการสำรวจจากหนังสือพิมพ์นิกเกอิที่คาดว่า ยอดเกินดุลการค้าจะอยู่ที่ 1.12 ล้านล้านเยน
          กระทรวงการคลังกล่าวว่า ยอดส่งออกโดยรวมของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 8.7% แตะ 6.98 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดสำหรับเดือนก.พ. เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากยอดส่งออกรถยนต์ เรือ และผลิตภัณฑ์เหล็กที่เพิ่มขึ้น 
          "ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ายอดส่งออกของญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการจากเอเชีย สหภาพยุโรป รัสเซีย และกลุ่มประเทศผลิตน้ำมัน ซึ่งได้ชดเชยความต้องการจากสหรัฐที่ลดลง" โนริโอะ มิยากาว่า นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยชินโกะกล่าว
          "จากการที่ญี่ปุ่นได้ขยายการส่งออกไปยังพื้นที่อื่นๆทั่วโลกนอกเหนือจากสหรัฐ จึงเป็นปัจจัยที่หนุนให้ยอดส่งออกโดยรวมของประเทศแข็งแกร่งขึ้น" เขากล่าว
          "วิกฤตการณ์ซับไพรม์ของสหรัฐยังคงส่งผลประทบต่อการส่งออกอุปกรณ์ด้านการก่อสร้างและเหมืองแร่ ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์ขนาดใหญ่ซึ่งมีเครื่องยนต์มากกว่า 3,00 ซีซี ลดลง สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคชาวสหรัฐมีแนวโน้มซื้อรถยนต์ขนาดเล็ก และรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินสูงขึ้นและอำนาจในการซื้อลดลง" เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังกล่าว   
          "ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดเงินและเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก" ซาโทรุ โอกาซาวาระ นักยุทธศาสตร์จากเครดิต สวิสกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน