นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันที่สภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวจากการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยว หลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แต่จากผลกระทบของสงครามรัสเซียยูเครนทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนและค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงต้นทุนรายจ่ายดอกเบี้ยที่อาจจะสูงขึ้นในอนาคต
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าธุรกิจ SME และลูกค้าบุคคล ที่ยังได้รับผลกระทบจากการจ้างงาน หรือรายได้ที่ยังไม่ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด ธนาคารกรุงเทพมีความห่วงใยในความเดือดร้อนของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว จึงยังคงดูแลช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่ออย่างตรงจุด ทันการณ์ และได้ผลจริง โดยมีมาตรการเพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกประเภท ทั้งลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคล เพื่อให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลืออย่างยั่งยืนในระยะยาว สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้
สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกค้ามีหลายรูปแบบ โดยพิจารณาให้เหมาะสมกับลูกค้า เช่น การพิจารณาปรับลดยอดผ่อน ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ให้ระยะเวลาปลอดหนี้ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย โอนทรัพย์ชำระหนี้ ให้สินเชื่อใหม่ การขยายวงเงินบัตรเครดิตจาก 1.5 เท่าเป็น 2 เท่าของรายได้ต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีการรวมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นที่ไม่มีหลักประกัน (Debt Consolidation) โดยลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบันสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ สำนักธุรกิจที่ดูแลสินเชื่อ หรือ สาขาธนาคารทั่วประเทศ