นักเศรษฐศาสตร์คาดยอดขายบ้านใหม่สหรัฐเดือนก.พ.อาจร่วงต่ำสุดในรอบ 13 ปี

          นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐเดือนก.พ.อาจปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 13 ปี ก่อนหน้าที่รัฐบาลจะรายงานตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ในคืนนี้
          นักเศรษฐศาสต์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านจะปรับตัวลดลงอยู่ที่ 578,000 หลังต่อปี จากระดับ 588,000 หลังในเดือนม.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนก.พ.2538          
          นอกจากนี้ รายงานอีกฉบับหนึ่งระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนจากโรงงานในเดือนก.พ.จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากยอดสั่งจองเครื่องบินที่ถีบตัวสูงขึ้นจนสามารถบดบังอุปสงค์สินค้าประเภทอื่นๆที่ชะลอตัวลงได้ ทั้งนี้ ตลาดที่อยู่อาศัยที่ซบเซาอาจยิ่งเผชิญผลกระทบที่เลวร้ายลงอีกจากการที่ลูกหนี้มีแนวโน้มผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น ขณะที่ผู้ซื้อขาดแรงจูงใจในการซื้อบ้านเนื่องจากเห็นว่ามูลค่าอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง
         นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ โตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ กล่าวว่า "แนวโน้มยอดขายบ้านโดยรวมยังคงซบเซา" อัลเลน เซนท์เนอร์           
          "การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ช่วงไตรมาสแรกยังคงฉุดรั้งอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เผชิญแรงกดดันในช่วงขาลงจากราคาบ้าน ซึ่งผู้ซื้อบ้านต่างทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้"
         สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐมีกำหนดรายงานยอดขายบ้านใหม่ในเวลา 10.00 น. ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายบ้านจะอยู่ระหว่าง 560,000-600,000 หลัง