ดอลล์อ่อนเทียบเยนบ่ายนี้ ขณะนลท.จับตาเศรษฐกิจสหรัฐ-ยอดส่งออกญี่ปุ่น

          เงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเงินเยนในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ (26 มี.ค.) หลังภาคการส่งออกของญี่ปุ่นมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วเมื่อเดือนที่แล้ว ในขณะเดียวกัน แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังคงซบเซา
          การส่งออกของญี่ปุ่นมีการขยายตัว 8.7% ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งมากกว่าเดือนม.ค.ซึ่งมีการขยายตัว 7.6% หลังยอดส่งออกไปยังเอเชียและยุโรปช่วยชดเชยยอดส่งออกไปยังสหรัฐที่ลดลง 
          อย่างไรก็ตาม เกิดกระแสความวิตกกังวลว่าเงินเยนที่แข็งค่าอาจส่งผลให้ต่างชาติต้องการสินค้าญี่ปุ่นน้อยลง และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในที่สุด ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้า 9.6997 แสนล้านเยนเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี
          "สมดุลด้านการค้าเป็นสิ่งที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของญี่ปุ่นให้ความสำคัญมาก เมื่อข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่าญี่ปุ่นยังคงเกินดุลการค้า คณะกรรมการกำหนดนโยบายจึงไม่รู้สึกเดือนเนื้อร้อนใจมากนักกับเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น" เดวิด แมนน์ นักยุทธศาสตร์การเงินจากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์ตเตอร์ด กล่าว 
          ยอดส่งออกจากญี่ปุ่นไปยังประเทศในเอเชียมีการขยายตัว 13.9% ในขณะที่ยอดส่งออกไปยังยุโรปโต 7.2% ยอดส่งออกไปยังสหรัฐหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน โดยลดลง 0.6%
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (12.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) เงินดอลลาร์ซื้อขายที่ระดับ 99.93 เยนต่อดอลลาร์ ลดลงจาก 100.13 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเช้าที่ตลาดออสเตรเลีย และลดลงจาก 100.52 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์ก          
          เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเป็น 1.5629 ดอลลาร์ต่อยูโร จาก 1.5611 ดอลลาร์ต่อยูโรในตลาดออสเตรเลีย
          นอกจากนั้นเงินดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงจากรายงานที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ในเดือนมี.ค. ในขณะที่มุมมองด้านเศรษฐกิจในสายตาของผู้บริโภคก็ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 35 ปี ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐต้องอาศัยการใช้จ่ายของชาวอเมริกันจึงจะมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ดังนั้น หากความเชื่อมั่นผู้บริโภคเป็นลบ เศรษฐกิจสหรัฐคงต้องซบเซาต่อไป