นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนและยูบีเอสคาดการณ์ว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกและผลประกอบการในปีนี้ของเมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค มีแนวโน้มลดลง
โดยเจพีมอร์แกนประกาศลดคาดการณ์ผลประกอบการของเมอร์ริล ลินช์ พร้อมกับกล่าวว่า เมอร์ริล ลินช์อาจต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์เนื่องจากขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพร์ม) ทั้งนี้ เจพีมอร์แกนคาดว่าผลประกอบการของเมอร์ริล ลินช์ จะลดลงสู่ระดับ 2.75 ดอลลาร์/หุ้นในปี 2551 จากระดับ 5 ดอลลาร์/หุ้น
"ผลประกอบการที่ปรับตัวลดลงส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการขาดทุนในตลาดซับไพรม์ ซึ่งจะเป็นเหตุให้เมอร์ริลลินช์ปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ลงอีก" เจพีมอร์แกนกล่าว
ขณะที่ เกลน ชอร์ นักวิเคราะห์ของยูบีเอสคาดว่า เมอร์ริล ลินช์ จะขาดทุนมูลค่า 2 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาสแรกเนื่องจากการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์มากขึ้น และคาดว่าจะขาดทุนตลอดปี 2551 ประมาณ 1.10 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยูบีเอสคาดว่าเมอร์ริล ลินช์จะปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ลง 4.5 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่า รายได้ในไตรมาสแรกจะลดลงมากกว่า 25%
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า เมอร์ริล ลินช์ เป็นหนึ่งในวาณิชธนกิจที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากวิกฤตการณ์ในตลาดปล่อยกู้จำนองและตลาดสินเชื่อ โดยเมอร์ริล ลินช์ได้ปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ลงไปแล้ว 2.25 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อช่วงครึ่งหลังของปี 2500
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--