รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางการเงินกับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(เจบิค)จำนวน 62,442 ล้านเยน สำหรับใช้ในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยโครงการจะเปิดให้มีการประมูลแบบ International Bidding
สำหรับเงินกู้ดังกล่าวจะมีระยะเวลาชำระหนี้ 25 ปี อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน 1.4% ต่อปี ระยะเวลาปลอดหนี้เงินต้น 7 ปี กำหนดค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ 0.01% ของมูลค่าวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า หลังจากเซ็นสัญญากับเจบิคแล้ว คาดว่าจะเบิกจ่ายเงินได้ภายใน 120 วัน ซึ่งในสัญญาเงินกู้ดังกล่าวจะมีการคิดค่าปรับกรณีการก่อสร้างล่าช้าที่ 0.1% ของวงเงินที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย แต่ถึงแม้ในสัญญาจะมีการคิดค่าปรับไว้ก็มั่นใจว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะไม่ล่าช้า เพราะถือเป็นโครงการที่มีความพร้อมมากที่สุด
"โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง เป็นโครงการที่ได้ศึกษามานานแล้ว ซึ่งมีความพร้อมทั้งด้านข้อมูลและกระบวนการจัดการ แม้เจบิค
จะกำหนดเงื่อนไขการคิดค่าปรับกรณีก่อสร้างล่าช้า แต่เรามั่นใจว่าจะไม่ต้องเสีย" รมว.คลัง ระบุ
ทั้งนี้คาดว่าจะมีข้อสรุปเรื่องสัดส่วนการระดมเงินที่ใช้ในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 9 สาย ได้ราวเดือน เม.ย.51 หลังจากที่รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการกำกับแหล่งเงินทุนโครงการเมกะโปรเจ็กท์ที่มีนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/กษมาพร/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--