นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในภาวะที่ข้าวมีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะสนับสนุนให้ส่งออกข้าวอย่างเต็มที่และจะไม่กำหนดโควตาส่งออกหรือกำหนดราคาส่งออกขั้นต่ำ ขณะที่จะปล่อยให้ราคาขายเป็นไปตามกลไกตลาด โดยเชื่อว่าการบริโภคในประเทศจะไม่ขาดแคลนเพราะกลไกตลาดจะทำงานตามปกติ
"กระทรวงพาณิชย์จะสนับสนุนให้ส่งออกข้าวให้หมด ชาวนาจะได้ลืมตาอ้าปากได้ เพราะราคาข้าวขณะนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนข้าวนาปรังที่กำลังจะออกมา ก็สนับสนุนให้ส่งออก รวมถึงข้าวฤดูกาลใหม่ เพราะปีนี้เป็นปีทองของชาวนา...ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลและเปิดโครงการรับจำนำ เพราะราคาข้าวเป็นที่น่าพอใจ และกลไกตลาดทำงานปกติ" นายมิ่งขวัญ กล่าว
สำหรับการดูแลราคาข้าวที่บริโภคภายในประเทศ กระทรวงพาณิชย์จะนำข้าวสารในสต๊อกจำนวนหนึ่งประมาณ 10% ของปริมาณการบริโภคข้าวในประเทศปีละ 9 ล้านตัน หรือประมาณ 900,000 ตัน มาบรรจุเป็นข้าวถุง 5 กิโลกรัมจำหน่ายให้กับผู้บริโภค ในราคาต้นทุนของข้าวที่รับจำนำมา
ส่วนผลการตรวจสอบข้าวในสต๊อกของรัฐบาลจำนวน 2.109 ล้านตัน ตั้งแต่วันที่ 11-16 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่าข้าวที่ฝากเก็บในโกดังกลาง 1.964 ล้านตัน มีปริมาณครบถ้วน ส่วนข้าวที่ฝากเก็บในโรงสี 0.145 ล้านตัน ขาดหายไป 13,000 ตัน คิดเป็น 0.62% ตรวจสอบพบข้าวหายในจังหวัดพิจิตร พะเยา ชัยนาท คงเหลือข้าวในสต๊อกทั้งสิ้น 2.096 ล้านตัน ซึ่งหากรวมกับข้าวที่หายที่จังหวัดเชียงรายอีก 12,000 ตัน จะมีข้าวหายประมาณ 25,000 ตัน
"ได้สั่งการให้ดำเนินคดีกับโรงสีทั้งทางแพ่งและอาญาให้ถึงที่สุด ซึ่ง อคส.ได้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายและขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าร่วมงานกับรัฐบาลอีกต่อไป และขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการทางวินัยและดำเนินคดีอาญากับพนักงานและข้าราชการอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบปริมาณข้าวในสต๊อกอย่างต่อเนื่อง" นายมิ่งขวัญ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--