ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลง ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นหลังจากเยอรมนีรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ปรับตัวสูงขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สกุลเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.5836 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.5627 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์แข็งขึ้นแตะระดับ 2.0084 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 2.0054 ดอลลาร์/ปอนด์
ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.9186 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9176 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งขึ้นแตะระดับ 0.8026 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.8062 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังซ์สวิส ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 99.140 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 100.07 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนลงแตะระดับ 0.9898 ฟรังซ์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0061 ฟรังซ์/ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ.ร่วงลง 1.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%
ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.ร่วงลง 1.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 590,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 13 ปี จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 601,000 ยูนิต
ส่วนสกุลเงินยูโรได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของสถาบัน Ifo ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกจิของเยอรมนี พุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และจากการแสดงความคิดเห็นของนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปที่กล่าวว่า "ธนาคารกลางยุโรปยังคงทุ่มเทให้กับเป้าหมายสำคัญ ซึ่งรวมถึงการสกัดกั้นเงินเฟ้อ ส่วนเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยนั้น ธนาคารกลางยุโรปมีนโยบายเป็นของตนเอง และจะปรับอัตราดอกเบี้ยเมื่อเห็นว่าจำเป็นเท่านั้น"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--