นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่ง (โครงการฯ) ระยะที่ 5 ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการวันนี้เป็นวันแรก (19 ส.ค. 65) ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมา ระบบแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เกิดความขัดข้องชั่วคราว เนื่องจากแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" มีการยกระดับระบบความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระบบต้องใช้เวลาประมวลผลนานขึ้น
อีกทั้งประชาชนให้ความสนใจยืนยันสิทธิ และลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เป็นจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ดี ธนาคารกรุงไทย (KTB) ได้เร่งดำเนินการแก้ไขให้ระบบสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติเรียบร้อยแล้ว (โดยสามารถใช้การได้ปกติในช่วงประมาณ 11.00 น.)
สำหรับความคืบหน้าการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 พบว่า ในวันแรก ณ เวลา 15.00 น. มีประชาชนรายเดิมที่เคยใช้สิทธิโครงการฯ ระยะที่ 4 กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 สะสมจำนวน 7.3 ล้านราย จากจำนวนประชาชนรายเดิมที่สามารถกดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 ทั้งสิ้น 26.27 ล้านราย
ส่วนประชาชนรายใหม่ที่ไม่เคยเข้าร่วม หรือไม่เคยใช้สิทธิโครงการฯ ระยะที่ 4 ได้มีการลงทะเบียนเข้าร่วมครบจำนวน 2.3 แสนสิทธิแล้ว ณ เวลา 11.51 น. ทั้งนี้ ประชาชนที่เคยใช้สิทธิโครงการฯ ระยะที่ 4 สามารถทยอยกดยืนยันสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
นายพรชัย กล่าวว่า ภายใต้โครงการฯ ระยะที่ 5 รัฐจะสนับสนุนวงเงินค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และบริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า และสินค้าหรือบริการที่กระทรวงการคลังกำหนด ในอัตรา 50% แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ โดยสามารถใช้จ่ายได้ระหว่างวันที่ 1 ก.ย.-31 ต.ค. 65
ทั้งนี้ ในการใช้จ่ายในโครงการฯ ระยะที่ 5 จะต้องเป็นการจ่ายเงินระหว่างประชาชนกับร้านค้า หรือผู้ให้บริการแบบพบหน้า (face-to-face) เท่านั้น และจะต้องไม่มีกระบวนการใดๆ ที่รองรับการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์หรือผ่านคนกลาง ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลัง โดย สศค.กำหนด เช่น การนำ QR Code ไปคัดลอกส่งต่อแก่บุคคลอื่นเพื่อสแกนจ่ายเงิน เป็นต้น
สำหรับความคืบหน้าของจำนวนผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ วันที่ 18 ส.ค. 65 เวลา 22.00 น. มีผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมสะสมจำนวน 217,261 ร้านค้า แบ่งเป็นผู้ประกอบการร้านค้ารายเดิมจากโครงการฯ ระยะที่ 4 จำนวน 215,735 ร้านค้า และผู้ประกอบการร้านค้ารายใหม่จำนวน 1,526 ร้านค้า
ส่วนผู้ประกอบการร้านค้าที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด และสนใจเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน จนกว่ากระทรวงการคลังจะปิดรับสมัคร
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่ม ยังสามารถเลือกเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่ได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 ได้เพียงรายเดียว ผ่านแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น.