นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบร่างแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ที่จะดำเนินงานในช่วง ปี 66-80 โดยได้ปรับปรุงให้สอดรับกับทิศทางการทำงานในอนาคต โดยมีการปรับตัวชี้วัดให้สอดคล้องให้กับสถานการณ์ เช่น ตัวชี้วัดธุรกิจบริการการท่องเที่ยวด้านสุขภาพ เป็นต้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการโครงการสำคัญที่จะดำเนินการภายใต้แผนแม่บทยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นโครงการประจำปี 67 มีทั้งหมด 1,026 โครงการ ซึ่งจะมีการประสานกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานเจ้าของโครงการ เพื่อให้โครงการมีความสมบูรณ์มากขึ้น และนำไปโครงการไปบรรจุไว้ในคำของบประมาณปี 67 ต่อไป
นายดนุชา กล่าวว่า การขับเคลื่อนประเทศในช่วงเวลาถัดไป จะมีบางกิจกรรมที่จะต้องดำเนินการต่อเนื่อง จึงต้องมีการปรับให้ยึดโยงกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) กำหนดตัวชี้วัด เพื่อทำให้การปฏิรูปประเทศมีความต่อเนื่องต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อน และประเมินผลแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 จะมีการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน 5 คณะ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่เป็นประธาน เพื่อดำเนินการรับผิดชอบในเชิงนโยบายและการจัดลำดับการพัฒนา พร้อมทั้งจะมีการนำแผนพัฒนาฯฉบับที่ 13 ลงสู่พื้นที่ โดยจะให้คณะกรรมการพัฒนาระดับจังหวัด เป็นผู้ที่จัดทำแผนกลุ่มจังหวัดและจังหวัด และจะทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในแผนพัฒนาฯฉบับที่ 13 มากขึ้น
นายดนุชา กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมรับทราบการดำเนินงานศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและการพัฒนคนทุกช่วงวัย ตามหลักปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้ดำเนินการไป 98% แล้ว และมีการจัดทำโครงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในพื้นที่นำร่อง 3 จังหวัด คือ อุดรธานี พิษณุโลก และสระบุรี ที่จะร่วมมือกับองค์กรยูนิเซฟ และภาคีพัฒนาอื่นๆ ที่จะจัดทำกลไกการพัฒนาที่จะเชื่อมโยงภาคส่วนอื่นๆ กับในพื้นที่ และมีการขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป