สำนักงานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (Economic and Social Commission for Asia and the Pacific — ESCAP) เปิดเผยในรายงานประจำปีว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียแปซิฟิคมีแนวโน้มว่า ชะลอตัวลงสู่ระดับ 7.7% ในปีนี้ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ 8.2% ในปีที่แล้ว
การชะลอตัวลงนั้นเป็นเพราะเศรษฐกิจในสหรัฐชะลอตัวลง และภาวะวิกฤติสินเชื่อที่ยังไม่สิ้นสุดลงในสหรัฐและยุโรป อันเนื่องมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้เพื่อการจำนองแก่ลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำในสหรัฐ
เงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินท้องถิ่นในภูมิภาคก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อัตราการขยายตัวที่ได้มีการคาดการณ์ในแง่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศร่วงลงสู่ระดับ 7% เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
ESCAP ชี้ว่า จีนและอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่ผลักดันการขยายตัวในภูมิภาคมีแนวโน้มว่า จะรักษาระดับการขยายตัวที่สดใสต่อไปได้ที่ 10.7% และ 9% ตามลำดับในปีนี้ และจะยังคงสนับสนุนเศรษฐกิจในภูมิภาคต่อไป
สำหรับเศรษฐกิจประเทศที่พัฒนาแล้วในภูมิภาคคาดว่า จะขยายตัว 1.6% ในปีนี้ นับเป็นสถิติที่ชะลอตัวลงจากระดับปี 2550 ที่ 2.0% โดยการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นคาดว่า จะขยายตัวในระดับปานกลางที่ 1.4% จากระดับปีที่แล้วที่ 1.8%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--