นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือน ก.ค.65 อยู่ที่ 83,086 คัน เพิ่มขึ้น 17.70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.65) อยู่ที่ 532,730 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.09% โดยมีมูลค่าการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 479,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 2.23%
"ยอดส่งออกเดือน ก.ค.กลับมาเป็นบวก หากช่วงที่เหลือเป็นอย่างนี้ทุกเดือนปีนี้น่าจะได้ตามเป้า" นายสุรพงษ์ กล่าว
ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน ก.ค.65 มีทั้งสิ้น 64,033 คัน เพิ่มขึ้น 22.10% จากเดือน ก.ค.64 แต่ลดลง 5.77% จากเดือน มิ.ย.65 เนื่องจากรัฐบาลผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างประเทศเข้าประเทศสะดวกขึ้น มีนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเดินทางเข้าประเทศกว่าสามล้านคน รวมทั้งการส่งออกที่ยังคงเติบโต การประกันรายได้เกษตรกร การกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น
"หลังเปิดประเทศทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น มียอดสมัครประกันสังคมเพิ่มขึ้น มีการประกันรายได้สินค้าเกษตร มีมาตรการช่วยลดค่าครองชีพ และการส่งออกดีขึ้น ทำให้ประชาชนมีกำลังที่จะมาซื้อรถกันมากขึ้น" นายสุรพงษ์ กล่าว
สำหรับจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือน ก.ค.65 มีทั้งสิ้น 142,958 คัน เพิ่มขึ้น 16.07% จากเดือน ก.ค.64 จากการผลิตเพื่อส่งออกและผลิตเพื่อขายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 2.07% และ 16.07% ตามลำดับ แต่ลดลง 0.04% จากเดือน มิ.ย.65 ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้มีทั้งสิ้น 1,013,069 คัน เพิ่มขึ้น 4.68% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ฯ กล่าวว่า ได้มีการประเมินเป้าใหม่หลังผ่านครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.65) ไปแล้ว โดยปรับประมาณการผลิตปีนี้ลดลง 5 หมื่นคัน หรือลดลง 2.78% จากเดิม 1.8 ล้านคัน เหลือ 1.75 ล้านคัน โดยการผลิตเพื่อส่งออกลดลง 1 แสนคัน หรือลดลง 10% จากเดิม 1 ล้านคัน เหลือ 9 แสนคัน ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 5 หมื่นค้น หรือเพิ่มขึ้น 6.25% จากเดิม 8 แสนคัน เป็น 8.5 แสนคัน
"สภาอุตสาหกรรมฯ ได้ปรับเป้าประมาณการผลิตในปีนี้ลงหลังจากดูสถานการณ์ช่วง 6 เดือนแรกแล้ว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สงครามระหว่างยูเครน-รัสเซียที่ทำให้ยอดส่งออกลดลงไปเดือนละ 2-3 หมื่นคัน ช่วงปลายเดือนก่อนเมียนมาก็ประกาศห้ามนำเข้าทำให้ยอดส่งออกลดลงไปอีก 2-3 พันคัน ยังไม่ปัญหาเรื่องสถานการณ์ความขัดแย้งในไต้หวัน ปัญหาเงินเฟ้อในหลายประเทศ และการขาดแคลนชิปที่มีความรุนแรงมากขึ้น" นายสุรพงษ์ กล่าว
ส่วนการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นหลังได้รับการส่งเสริมจากบอร์ดอีวี โดยในเดือน ก.ค.65 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่ 1,459 คัน เพิ่มขึ้น 334.23% จากเดือน ก.ค.64 และช่วง 7 เดือนแรกปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 8,784 คัน เพิ่มขึ้น 187.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 4,547 คัน เพิ่มขึ้น 142.51%, ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV จดทะเบียนใหม่ 775 คัน เพิ่มขึ้น 150.81% จากช่วงเดียวกันปีก่อน