"เป๋าสตีล" เผยผลกำไรสุทธิปี 50 ลด 2.75% เหตุราคาสินแร่เหล็ก-นิกเกิลแพง

          บริษัทเป๋าชาน ไอออน แอนด์ สตีล หรือ เป๋าสตีล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของจีนกล่าวว่า ผลกำไรสุทธิของบริษัทในปี 2550 ลดลง 2.75% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับ 1.272 หมื่นล้านหยวน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาสินแร่เหล็กและนิกเกิลที่พุ่งสูงขึ้น
          บริษัทกล่าวในรายงานประจำปีว่า สามารถขายแท่งเหล็กได้ 22.6 ล้านตัน และขายสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูงได้ 7.39 ล้านตันในปี 2550
          ยอดขายเหล็กม้วนร้อนและเย็นในปี 2550 อยู่ที่ 9.17 ล้านตัน และ 7.704 ล้านตันตามลำดับ ขณะที่ยอดขายแผ่นเหล็กและท่อเหล็กอยู่ที่ 1.444 ล้านตัน และ 1.417 ล้านตัน
          นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถขายเหล็กสเตนเลสม้วนร้อนได้ 559,000 ตัน และขายเหล็กสเตนเลสม้วนเย็นได้ 436,000 ต้น รวมถึงเหล็กพิเศษที่ระดับ 934,000 ตัน โดยมีส่วนแบ่งตลาด 15%
          ส่วนรายได้จากการดำเนินงานในปี 2550 อยู่ที่ 1.91 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 18.01% ขณะที่ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 20.85% แตะระดับ 1.73 แสนล้านหยวน
          เป๋าสตีลกล่าวว่า ราคาสินแร่เหล็กนำเข้าเพิ่มขึ้น 9.5% ในปี 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับที่ได้เพิ่มขึ้น 19% ในปี 2549 นอกจากนี้ ต้นทุนในการขนส่ง และราคาวัตถุดิบยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงราคานิกเกิลที่สูงขึ้นทำให้ธรุกิจเหล็กสเตนเลสประสบภาวะขาดทุน
          อย่างไรก็ตาม ราคาขายและค่าใช้จ่ายด้านการจัดการลดลง 9% และ 2.95% ตามลำดับ แตะระดับ 2.018 พันล้านหยวน และ 2.218 พันล้านหยวน อันเป็นผลมาจากการควบคุมราคา
          ทั้งนี้ บริษัทกล่าวว่า ความต้องการของตลาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะยังคงแข็งแกร่ง แต่คาดว่าราคาสินแร่เหล็กที่พุ่งสูงขึ้นจะส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานของบรรดาผู้ผลิตเหล็กในประเทศพุ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
          โดยเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา บรรดาผู้ผลิตเหล็กจีนได้เห็นชอบให้มีการปรับขึ้นราคาสินแร่เหล็กในปี 2551 ที่ 65%
          นอกจากนี้ บริษัทยังได้ตั้งเป้าผลิตเหล็กให้ได้ 21.37 ตันในปี 2551 และตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากการดำเนินงานที่ 2.00 แสนล้านหยวน และต้นทุนการดำเนินงานที่ 1.71 แสนล้านหยวน สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงาน