น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย เปิดตัวโครงการ "เที่ยวกับแกร็บ อะเมซิ่งยิ่งกว่า" โดย น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวที่ ททท. ร่วมกับแกร็บ จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นความถี่ในการเดินทางของนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. 65 หรือช่วงไตรมาส 3/65 สอดรับกับเป้าหมายในการฟื้นฟูภาคท่องเที่ยว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามทิศทางส่งเสริมการตลาดของ ททท. ในปี 65
ทั้งนี้ จะเป็นโครงการที่เข้ามาเสริมในช่วงที่บรรยากาศทางการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก หลังผ่อนคลายจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ ททท. ร่วมกับพันธมิตรได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล
น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า จากฐานข้อมูลของ ททท. ช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.65 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 30.86 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 316% และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 135,375 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 292% โดยนักท่องเที่ยวมีพฤติกรรมการท่องเที่ยวในรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองสูงถึง 97.93% ซึ่งส่วนมากใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นยานพาหนะในการเดินทาง และเลือกจุดหมายปลายทางเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก 50.41%
"ททท. คาดหวังว่าการจัดโครงการ ?เที่ยวกับแกร็บ อะเมซิ่งยิ่งกว่า? จะเป็นอีกส่วนหนึ่งในการก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท และสร้างการรับรู้ได้ไม่ต่ำกว่า 24,580,000 คน-ครั้ง" น.ส.ฐาปนีย์ กล่าว
น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวต่อว่า ททท. เห็นว่าการให้บริการของ แกร็บ ประเทศไทย มีบริการที่หลากหลาย ทั้ง GrabTransport, GrabFood, GrabMart, GrabExpress รวมถึงบริการด้านการท่องเที่ยว เช่น การจองที่พัก และการจองบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีการดำเนินการที่เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety & Health Administration: SHA) ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายภาคส่วน
"ปีหน้าจะมีแคมเปญใหญ่ ?365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย...เที่ยวได้ทุกวัน? หรือทุกวันเป็นไฮซีซัน เป็นกลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค ขณะเดียวกัน ททท. ยังดำเนินการทั้งการใช้กลยุทธ์ Up-skill และ Re-skill กลุ่มผู้ประกอบการ รักษาสมดุลการท่องเที่ยว ส่งเสริมการเที่ยวเมืองรอง รักษามาตรฐาน SHA ทำการตลาดแบบพุ่งเป้า และทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เป็นต้น" น.ส.ฐาปนีย์ กล่าว
ด้าน นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ทั้งในระดับมหภาคและระดับท้องถิ่น แม้สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลง แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยยังมีจำกัด
ดังนั้น แกร็บ ในฐานะแพลตฟอร์มผู้ให้บริการด้านการเดินทาง ได้เล็งเห็นความสำคัญของการมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ จึงได้ร่วมมือกับ ททท. ในการจัดโครงการ "เที่ยวกับแกร็บ อะเมซิ่งยิ่งกว่า" กระตุ้นให้คนไทยออกมาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกครั้ง ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่
1. กิจกรรม #เที่ยวกับGrab Challenge ชวนทุกคนมาร่วมแชร์เรื่องราวการเดินทาง หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่ตัวเองประทับใจ เพื่อชิงของรางวัลสุดพิเศษ มูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท อาทิ หูฟัง AirPods กล้อง Polaroid Now และไดร์เป่าผม Dyson เป็นต้น
2. กิจกรรม GrabMoreAmazing เกมทายสถานที่ท่องเที่ยวจากนิสัย เพื่อค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ใช่ในสไตล์ของคุณ
3. การมอบโค้ดส่วนลดการเดินทางด้วยรถยนต์บนแกร็บ มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท เพื่อมอบความสะดวกสบาย และสร้างความอุ่นใจให้กับการเดินทาง
"เราหวังว่าโครงการนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยของคนไทยอะเมซิ่งกว่าที่เคย ซึ่งคาดว่าการมอบโค้ดส่วนลดนี้ จะสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ถึง 10 ล้านบาท" นายวรฉัตร กล่าว
ในส่วนของรายละเอียดโค้ดส่วนลดในโครงการ "เที่ยวกับแกร็บ อะเมซิ่งยิ่งกว่า" แบ่งเป็น โค้ดส่วนลด "AMAZING" ส่วนลด 40% สูงสุด 100 บาท สำหรับการเดินทางระหว่างการท่องเที่ยว และโค้ดส่วนลด "TRAVEL" ส่วนลด 40% สูงสุด 200 บาท สำหรับการเดินทางไป-กลับ สนามบิน