นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ประชาชนจะเริ่มใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ถึง 31 ต.ค. 65 โดยรัฐจะสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ในอัตรา 50% แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
ทั้งนี้ ล่าสุด วันที่ 29 ส.ค. 65 เวลา 15.00 น. มีประชาชนรายเดิมที่เคยใช้สิทธิโครงการฯ ระยะที่ 4 (ประชาชนรายเดิมฯ) กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 แล้วจำนวน 18.30 ล้านราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 70% ของจำนวนประชาชนรายเดิมฯ ทั้งสิ้นจำนวน 26.27 ล้านราย
ดังนั้น ขอเชิญชวนให้ผู้ที่ยังไม่ได้กดยืนยันสิทธิอีกจำนวนประมาณ 7.97 ล้านราย เร่งกดยืนยันสิทธิล่วงหน้า ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังผ่าน G-Wallet แบนเนอร์โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 เพื่อลดความแออัดของการใช้งานแอปพลิเคชันเป๋าตังในวันเริ่มการใช้จ่ายวันแรกในวันที่ 1 ก.ย. 65 ที่จะถึงนี้ รวมถึงหากไม่ใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 14 ก.ย. 65 เวลา 22.59 น. จะถูกตัดสิทธิ
สำหรับประชาชนรายใหม่ที่ไม่เคยใช้สิทธิโครงการฯ ระยะที่ 4 (ประชาชนรายใหม่ฯ) ที่ได้มีการลงทะเบียนเข้าร่วมครบจำนวน 2.30 แสนรายแล้วนั้น ย้ำว่า ประชาชนรายใหม่ฯ ที่ได้รับสิทธิแต่ยังไม่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทย (KTB) หรือยังไม่เคยทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ซึ่งต้องผ่านการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทยฯ จะต้องทำการยืนยันตัวตนก่อนการใช้สิทธิครั้งแรก โดยจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนมายืนยันตัวตนผ่านตู้เอทีเอ็มสีเทาของธนาคารกรุงไทยฯ หรือ ณ ธนาคารกรุงไทยฯ สาขาใดก็ได้ จึงจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากขณะนี้ประชาชนรายใหม่ฯ ได้รับการแจ้งยืนยันสิทธิทางข้อความสั้น (SMS) หรือข้อความผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังครบถ้วนแล้วทุกราย ดังนั้น ประชาชนรายใหม่ฯ ดังกล่าวจะต้องใช้จ่ายครั้งแรกผ่านเป๋าตังภายในวันที่ 14 ก.ย. 65 เวลา 22.59 น. มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ
สำหรับความคืบหน้าการลงทะเบียนผู้ประกอบการร้านค้า ณ วันที่ 28 ส.ค. 65 เวลา 23.00 น. มีผู้ประกอบการร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมสะสมแล้วทั้งสิ้น 401,962 ร้านค้า ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด ยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 ได้อย่างต่อเนื่อง จนกว่ากระทรวงการคลังจะปิดรับสมัคร
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่ม ยังสามารถเลือกเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่เข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 ได้หนึ่งราย ผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่ได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 เพิ่มเติมอีก 1 ราย รวมเป็นจำนวน 5 ราย ได้แก่ ช้อปปี้ฟู้ด ไลน์แมน แกร็บฟู้ด ฟู้ดแพนด้า และทรูฟู้ด
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 จะเริ่มให้ผู้มีสิทธิได้ใช้จ่ายระหว่างวันที่ 1 ก.ย. ถึง 31 ต.ค. 65 เช่นเดียวกัน
สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว จะได้รับเงินช่วยเหลือค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และค่าซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
ทั้งนี้ จะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน (กรณีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 400 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 ได้ที่เว็บไซต์ https://เพิ่มกำลังซื้อ.คนละครึ่ง.com