อวาด้า เวนเจอร์ส ไพรเวท ลิมิเต็ด (Avaada Ventures Private Limited) หรือบริษัทอวาด้า กรุ๊ป (Avaada Group Company) พันธมิตรการลงทุนในอินเดียของบมจ.โกลบอล พาวเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (จีพีเอสซี หรือ GPSC) ซึ่งเป็นบริษัทเรือธงด้านการผลิตไฟฟ้าระดับนวัตกรรมที่จดทะเบียนของกลุ่มปตท.ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์แห่งรัฐราชสถาน เพื่อสร้างโรงงานแอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในเมืองโกตา รัฐราชสถาน
โดยเอ็มโอยูที่ลงนามไปนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนสำหรับการประชุมสุดยอดด้านการลงทุนในราชสถานซึ่งจัดขึ้นที่กรุงนิวเดลี และมีการเสนอการลงทุนวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ พร้อมกับมอบโอกาสการจ้างงานโดยตรงให้แก่ผู้คนราว 3,500 คน และงานทางอ้อมให้แก่ผู้คนกว่า 10,500 คน
นายวินิต มิตตัล ประธานอวาด้า กรุ๊ป เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับการผลักดันเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมของอินเดีย และกล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานสีเขียวเป็นสิ่งที่สำคัญต่ออาตฺมนิรภร (การพึ่งพาตนเอง) ของอินเดีย และจะกรุยทางไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ ที่อวาด้า เราตั้งเป้าที่จะทำให้อินเดียเป็นอิสระในเรื่องพลังงานด้วยการให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านพลังงานสีเขียว ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์เรื่องการพึ่งพาตนเองของประเทศ"
"การลงทุนของจีพีเอสซีในอวาด้า เอเนอร์จี ไพรเวท ลิมิเต็ด (บริษัทอวาด้า กรุ๊ป) จะสนับสนุนภารกิจของกลุ่มบริษัทอย่างแท้จริง เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นระดับชั้นนำในด้านพลังงานหมุนเวียนในอินเดีย ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับการเป็นพันธมิตรครั้งนี้อย่างแน่นอน เราจะใช้ความสัมพันธ์นี้สร้างและบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานหมุนเวียนที่ใหม่กว่า และการลงทุนในราชสถานครั้งนี้ก็นับเป็นอีกก้าวของทิศทางดังกล่าว" วินิต มิตตัล ประธานอวาด้า กรุ๊ป กล่าว
"ที่อวาด้า เราเชื่อว่าธุรกิจและความยั่งยืนเกี่ยวพันกัน เราขอขอบคุณรัฐบาลราชสถานสำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับการปฏิวัติพลังงานสีเขียวของอินเดียภายใต้การนำของท่านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ขณะที่เราจะลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในโซลูชันพลังงานสะอาดที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อสนับสนุนการเติบโตแบบก้าวกระโดดของอินเดียในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน" ประธานอวาด้า กรุ๊ป กล่าวเสริม
นายมิตตัลให้รายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานสะอาดว่า ประโยชน์สูงสุดของไฮโดรเจนสีเขียวก็คือ ไฮโดรเจนจะเผาอย่างสะอาด ทำให้เหลือแต่ไอน้ำ และกล่าวต่อไปว่า "สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความร้อนสูง เช่น โรงหล่อ ผู้ผลิตแก้ว และผู้ผลิตเหล็ก นี่อาจจะเป็นการค้นพบครั้งใหม่ เพราะนอกจากจะทดแทนเชื้อเพลิงจากฟอสซิลด้วยพลังงานหมุนเวียนแล้ว ยังผลิตแอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและวัสดุที่ใช้แทนก๊าซได้"