รบ.เวียดนามชี้ภาคธุรกิจก่อสร้างซบเซา ฉุดเศรษฐกิจในปท.ไตรมาสแรกชะลอตัว

          รัฐบาลเวียดนามคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามจะชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้างได้รับผลกระทบจากราคาที่พุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์เงินเฟ้อที่ขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่า 10 ปี
          ตัวเลขจากสำนักงานสถิติเวียดนามระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกขยายตัว 7.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับตัวเลขที่มีการทบทวนที่ระดับ 7.8% ในไตรมาสแรกของปี 2550 ขณะที่ตลอดทั้งปี 2550 เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวขึ้น 8.5% ซึ่งเป็นสถิติการขยายตัวเร็วที่สุดตั้งแต่ปี 2539
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า มูลค่าทางเศรษฐกิจของเวียดนามกว่า 7.0 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้อาจได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นและจากความพยายามของรัฐบาลที่ต้องการปรับลดอัตราการขยายตัวของเงินกู้ที่พุ่งขึ้นประมาณ 50% ในปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันมาตรการคุมเข้มด้านการเงินทำให้บริษัทหลายแห่งประสบปัญหาในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ ขณะกำลังเผชิญปัญหาต้นทุนที่เพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
          เหงียน ดั๊ก ฮัว ประธานสำนักงานสถิติเวียดนามกล่าวในรายงานเศรษฐกิจไตรมาสแรกว่า "ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การขยายตัวด้านผลผลิตอุตสาหกรรมชะลอตัวลงเป็นผลจากราคาวัตถุดิบและเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในภาคธุรกิจ และอาจกดดันให้บริษัทต่างๆเผชิญความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
          ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้างของเวียดนามมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ระดับ 8.2% ซึ่งลดลงจาก 9.1% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ขณะที่การขยายตัวเฉพาะในภาคธุรกิจก่อสร้างอยู่ที่ระดับ 3.3%