นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย และ บสย. ได้ร่วมหารือเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขค้ำประกันสินเชื่อภายใต้ พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564 (พ.ร.ก.ฟื้นฟู) ที่ยังเหลือวงเงินอีกจำนวน 50,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ รมว.คลัง ได้ให้ความเห็นชอบการขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อภายใต้ พ.ร.ก.ฟื้นฟู ระยะที่ 2 อีกจำนวน 50,000 ล้านบาท รวมวงเงินจำนวน 150,000 ล้านบาท โดยให้ บสย.ค้ำประกันเต็มวงเงินสินเชื่อ และให้เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.65 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สินเชื่อเพื่อการปรับตัว ภายใต้ พ.ร.ก.ฟื้นฟูระยะที่ 2 ของธนาคารแห่งประเทศไทย และโครงการค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟู ระยะ 2 วงเงิน 50,000 ล้านบาท โดย "บสย.พร้อมช่วย" เป็นมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่กำลังก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านและการเปิดประเทศ สู่ BCG Model ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ค่าธรรมเนียมค้ำประกันถูก เพียง 3% ใน 2 ปีแรก และยังค้ำประกันเต็มวงเงิน ซึ่งช่วยผู้ประกอบการได้รับประโยชน์มากถึง 3 ต่อ
- ต่อที่ 1 อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ 2% ใน 2 ปีแรก (รัฐชดเชยดอกเบี้ย 6 เดือนแรก)
- ต่อที่ 2 ค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ 1% ใน 2 ปีแรก
- ต่อที่ 3 บสย. พร้อมค้ำประกันสินเชื่อ แบบเต็มวงเงิน
โดยมีระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 - วันที่ 9 เมษายน 2566 (ตามกรอบระยะเวลาของธนาคารแห่งประเทศไทย)
สำหรับกลุ่มธุรกิจเป้าหมาย ภายใต้ BCG Model ที่ได้รับการสนับสนุน ได้แก่
1. กลุ่มดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจ
2. กลุ่มที่กำลังปรับไปสู่กระบวนการผลิต และบริการแบบออโตเมชั่น
3. กลุ่มธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม ระบบประหยัดพลังงาน พลังงานทดแทน และพลังงานสะอาด
4. กลุ่มธุรกิจที่พัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในรูปแบบ Zero waste
5. กลุ่มธุรกิจนวัตกรรม ที่เสริมความสามารถในการแข่งขัน
นายสิทธิกร กล่าวว่า บสย. ได้สนับสนุนการค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการ SMEs ในโครงการสินเชื่อฟื้นฟู ระยะที่ 1 ของธนาคารแห่งประเทศไทย ในช่วงเดือนเม.ย.-ส.ค.64 วงเงิน 100,000 ล้านบาท และในเดือนก.ย. 64 ได้ร่วมโครงการสินเชื่อฟื้นฟู ระยะที่ 2 วงเงิน 100,000 ล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อขยายวงเงินสินเชื่อแก่ลูกหนี้เดิมและใหม่ ซึ่งต่อมา บสย. ได้เพิ่มหลักเกณฑ์และเงื่อนไขค้ำประกันสินเชื่อ โดยเพิ่มอัตราค้ำประกันสินเชื่อรายตัวในกลุ่มลูกหนี้รายย่อย (Micro) ทุกรายและลูกหนี้ SME ในกลุ่มธุรกิจที่มีความเสี่ยง และลดภาระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2 ปีแรก
ทั้งนี้ หลังการขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่ออีก 50,000 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้ บสย. มีวงเงินค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟู ระยะ 2 รวมทั้งสิ้น ณ วันที่ 1 ก.ย.65 จำนวน 72,000 ล้านบาท (วงเงินคงเหลือฟฟื้นฟู 2 จำนวน 22,000 ล้านบาท และวงเงินขยายเพิ่ม 50,000 ล้านบาท)