นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.71 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าเล็ก น้อยจากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 36.74 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.71 - 36.85 บาท/ดอลลาร์
"บาทเปิดตลาดทยอยอ่อนค่าไปจนแตะระดับ 36.85 ก่อนที่จะกลับมาแข็งค่าสุดช่วงปิดตลาด ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคอ่อนค่าเล็ก น้อย แต่คาดว่าตลาดรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรฯ คืนนี้" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 36.65 - 36.85 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 140.35 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 140.06 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9995 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 0.9957 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,622.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.20 จุด, +0.01% มูลค่าการซื้อขาย 61,344.55 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,175.61 ล้านบาท(SET+MAI)
- กระทรวงการคลัง เผยโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนรายเดิมที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง
ระยะที่ 4 จำนวน 4.43 ล้านคน คิดเป็นยอดใช้จ่ายสะสม 979.77 ล้านบาท และมีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนรายใหม่ ที่ไม่เคยใช้สิทธิ
โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวน 36,947 คน คิดเป็นยอดใช้จ่ายสะสม 8.25 ล้านบาท รวมมีผู้ใช้สิทธิทั้งหมดจำนวน 4.47 ล้าน
คน และมียอดใช้จ่ายรวม 988.02 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 499.99 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน
488.03 ล้านบาท
- รมว.คลัง เห็นชอบให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อภายใต้ พ.ร.ก.
ฟื้นฟู ระยะที่ 2 อีกจำนวน 50,000 ล้านบาท รวมวงเงินจำนวน 150,000 ล้านบาท โดยให้ บสย.ค้ำประกันเต็มวงเงินสินเชื่อ และเริ่ม
ใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.65 เป็นต้นไป
- รมว.คลัง เผยมีนโยบายเพิ่มเงินสมทบจากภาครัฐให้แก่สมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เนื่องจากปัจจุบันยังสมทบ
ต่ำเกินไป คือ ช่วงอายุ 15 - 30 ปี สมทบให้ 50% ของเงินออมแต่ละครั้ง รวมทั้งปีไม่เกิน 600 บาท, ช่วงอายุ >30 - 50 ปี สมทบ
ให้ 80% ของเงินออมแต่ละครั้ง รวมทั้งปีไม่เกิน 960 บาท และช่วงอายุ >50 - 60 ปี สมทบให้ 100% ของเงินออมแต่ละครั้ง รวมทั้งปี
ไม่เกิน 1,200 บาท
- สกุลเงินเยนร่วงลงอย่างหนักเทียบดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากตลาด
กังวลเรื่องที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อต่อเนื่องอีกระยะ หลังข้อมูลภาคการผลิตยังแข็ง
แกร่ง
- งานวิจัยซึ่งรวบรวมโดยเวริสก์ เมเพิลครอฟต์ (Verisk Maplecroft) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการรวบรวมและวิเคราะห์
ข้อมูลระบุว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดความไม่สงบได้เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ ขณะที่ประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วและกลุ่มตลาดเกิดใหม่กำลังเผชิญ
กับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ตลอดจนความวุ่นวายที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารเข้าทำสงครามในยูเครน
- นักวิเคราะห์ คาดการณ์ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเพียง 300,000 ตำแหน่ง หลังจาก
พุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์จากเวลส์ ฟาร์โก คาดตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 375,000 ตำแหน่ง ส่วนนัก
วิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ คาดตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 350,000 ตำแหน่ง