นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.71 บาท/ดอลลาร์ โดยเป็นระดับ เดียวกับปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามเช้านี้เงินบาทยังอ่อนค่า เนื่องจากตลาดกังวลวิกฤติพลังงานในยุโรปว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก นอก จากนี้ ยังมีการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนหลังจากที่มีการล็อกดาวน์รอบใหม่ ด้านสกุลเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเช่นเดียวกับเงินบาท
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.65 - 36.85 บาท/ดอลลาร์ สำหรับปัจจัยสำคัญที่ ต้องติดตามวันนี้ คือ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค. ของไทย ตลาดคาดอยู่ที่ 7.8%-7.9% โดยมองว่าครั้งนี้น่าจะเป็นจุดสูงสุดแล้ว
THAI BAHT FIX 3M (2 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.78516% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.98658%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 140.18 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 140.35 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9921 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 0.9995 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.804 บาท/ดอลลาร์
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า (เงินเฟ้อ) เดือนส.ค.
- ดีเดย์! 5 ก.ย. "คลัง" เปิดลงทะเบียนบัตรคนจนปี 65 เปิดจุดบริการ 7,000 แห่ง หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ได้จน
ถึง 19 ต.ค.นี้ พร้อมมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกอีก 3.2 หมื่นคน
- บีโอไอ ตั้งเป้าคำขอส่งเสริมฯ ปีนี้ 5 แสนล้านบาท เดินหน้าแนวคิด BCG ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตยั่งยืน เผย 6
เดือน คำขอส่งเสริมฯ กลุ่ม BCG มูลค่า 7.98 หมื่นล้านบาท คาดทั้งปีได้ 1.5 แสนล้านบาท
- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกำกับ
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ถึง 3 ฉบับเพื่อกำชับให้กำกับดูแลการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเข้มงวด และ
เร่งให้ความรู้ความเข้าใจกับนักลงทุนเพราะการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง แต่ต้องย้ำเตือนนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากขณะนี้มีการชักชวน
ให้มีการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล การขุดเหมืองบิทคอยน์จำนวนมาก ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงและความเสียหายแก่นักลงทุน
- นักลงทุนกำลังประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐ
เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 315,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 526,000 ตำแหน่งใน
เดือนก.ค. ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ค.
- นักลงทุนลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบาย
การเงินในเดือนก.ย. หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ชะลอตัวลงในเดือนส.ค. ช่วยลดแรงกดดันต่อเฟดในการเร่งปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 62.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 38.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคบริการเดือนส.ค. ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศเดือนก.
ค. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ของเฟด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์