(เพิ่มเติม1) ครม.ไฟเขียวมาตรการช่วยค่าไฟ-ขยายเวลาลดภาษีดีเซล 2 เดือน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 13, 2022 14:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

(เพิ่มเติม1) ครม.ไฟเขียวมาตรการช่วยค่าไฟ-ขยายเวลาลดภาษีดีเซล 2 เดือน

นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้มีรายได้น้อย สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน และกลุ่มใช้ไฟฟ้าเกิน 300 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนก.ย.-ธ.ค.65 โดยใช้งบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นในปีงบประมาณ 65 และ 66 ในวงเงิน 9,000 ล้านบาท และมีผลทันต่อการคำนวณบิลค่าไฟช่วงสิ้นเดือนก.ย.นี้

ส่วนแนวโน้มจะช่วยเหลือผู้ใช้ไฟเกิน 4 เดือนหรือไม่นั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า จำเป็นต้องติดตามราคาก๊าซก่อน แต่สถานการณ์ตอนนี้ประมาทไม่ได้ ซึ่งราคาก๊าซธรรมชาติที่นำเข้ายังสูงอยู่ แต่สิ่งสำคัญ คือ การประหยัดพลังงาน

ส่วนแผนระยะยาว คือ การเพิ่มพลังงานสะอาดมากขึ้น และการหาแหล่งก๊าซธรรมชาติ หรือแหล่งพลังงานในประเทศ ซึ่งจะมีการเปิดประมูลสัมปทานรอบใหม่ และการหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา เป็นต้น

นอกจากนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบมาตรการต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ต่อไปอีก 2 เดือน จากที่จะหมดอายุวันที่ 20 ก.ย. 65 โดยรัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท ส่วนที่ให้ต่ออายุมาตรการไป 2 เดือน เนื่องจากกระทรวงการคลังขอดูเรื่องวินัยการเงินการคลัง และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การเก็บภาษีว่ามีความพร้อมหรือไม่

ส่วนมาตรการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ของประชาชน อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลังในการออกมาตรการทางภาษีสนับสนุนการติดตั้งของประชาชน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ครม.ได้เห็นชอบขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. - 20 พ.ย. 65 และเห็นชอบให้ขยายเวลาจัดเก็บภาษีสรรพสามิตอัตรา 0 สำหรับน้ำมันดีเซล (บี0) และน้ำมันเตาที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด ออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.65 - 15 มี.ค.66 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจในช่วงที่ราคาเชื้อเพลิงต่าง ๆ ในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ราคาเชื้อเพลิงต่างๆ ในตลาดโลกยังคงผันผวนและปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงส่งผลกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าเชื้อเพลิงต่างๆ ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศ และต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นจนกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาชนและภาคธุรกิจ จึงมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการทางภาษีไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อช่วยไม่ให้ราคาขายปลีกของน้ำมันดีเซลและค่าไฟฟ้าไม่สูงจนกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เนื่องจากน้ำมันดีเซล และไฟฟ้าเป็นต้นทุนการผลิตและการขนส่งของทุกภาคอุตสาหกรรม

กรมสรรพสามิต จึงเสนอปรับลดอัตราภาษีสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาทและจัดเก็บภาษีสรรพสามิตอัตราศูนย์สำหรับน้ำมันดีเซล (บี0) และน้ำมันเตาที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด แม้ว่าการปรับลดอัตราภาษีในครั้งนี้ จะส่งผลให้กรมสรรพสามิตต้องสูญเสียรายได้เป็นจำนวนเกือบ 20,000 ล้านบาทก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ