น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความใน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เสนอให้ "ผู้ประกอบธุรกิจทรัสตี" ตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน และ "ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการระบบคราวด์ฟันดิง" ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็น "สถาบันการเงิน" ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อให้การกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวต้องปฏิบัติต่อผู้ลงทุนอย่างเป็นธรรม และป้องกันการนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมาลงทุน
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันการลงทุนผ่านกองทรัสต์ และผ่านระบบคราวด์ฟันดิง ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสที่นักลงทุนจะอาศัยช่องว่างของการตรวจสอบ นำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดเข้าซื้อหน่วยลงทุนเพื่อฟอกเงิน โดยที่บริษัทตัวกลางไม่ได้รายงานความผิดปกติของธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยให้สำนักงาน ปปง. ทราบ
ดังนั้น เมื่อผู้ประกอบธุรกิจทรัสตี และผู้ประกอบธุรกิจให้บริการระบบคราวด์ฟันดิง เป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแล้ว ผู้ประกอบการดังกล่าวจะต้องมีหน้าที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย อาทิ 1) การรายงานการทำธุรกรรม 2) การจัดให้ลูกค้าต้องแสดงตน 3) การกำหนดนโยบาย การรับลูกค้า การบริหารความเสี่ยงที่อาจเกี่ยวกับการฟอกเงินหรือการตรวจสอบ เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า เป็นต้น
"ครม.ได้เน้นย้ำให้การดำเนินการดังกล่าว ต้องมีขั้นตอนที่ง่ายต่อการปฏิบัติ ไม่เป็นภาระมากเกินไป และต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ MSME พร้อมทั้งให้ สำนักงาน ปปง. พิจารณาข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว