นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคมในมาตรา 33 ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง เป็นระยะเวลา 3 เดือน (ต.ค.-ธ.ค.65) จากเดิมที่จัดเก็บในอัตรา 5% เหลือ 3% และสำหรับผู้ประกันตน มาตรา 39 จะปรับลดการจ่ายเงินเข้ากองทุนจาก 432 บาท เหลือ 240 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือนเช่นเดียวกัน เพื่อบรรเทาภาระนายจ้างและผู้ประกันตนให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพ
สำหรับการลดอัตราเงินสมทบตามมาตรา 33 โดยให้นายจ้าง และผู้ประกันตนแต่ละฝ่าย จ่ายเงิน 3% ของค่าจ้างผู้ประกันตน จากเดิมที่จ่ายอยู่ในอัตรา 5% ในขณะที่กำหนดให้รัฐบาล จ่ายเงินในอัตราเท่าเดิมที่ 2.75% ของค่าจ้างผู้ประกันตน
ส่วนผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ให้ปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม จากเดิมในอัตราเดือนละ 432 บาทเป็นอัตราเดือนละ 240 บาท
นายอนุชา กล่าวว่า การปรับลดอัตราเงินสมทบงวดเดือน ต.ค. - ธ.ค. 65 นี้ จะส่งผลให้กองทุนประกันสังคม จัดเก็บเงินสมทบได้ลดลง 17,044 ล้านบาท โดยผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบลดลง 9,080 ล้านบาท และนายจ้างจ่ายลดลง 7,964 ล้านบาท เป็นการบรรเทาภาระของนายจ้างจากสภาวะเศรษฐกิจ และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ให้นายจ้างมีสภาพคล่องเพิ่ม และลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกันตน ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นด้วย