นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.96 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 36.88 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 36.85 - 36.97 บาท/ดอลลาร์ โดยมี ทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค
"บาทแกว่งตัว sideway ในกรอบแคบๆ ทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค ตลาดรอดูผลประชุมเฟดวันพรุ่งนี้ ส่วนกรณีที่รอง นายกฯ สั่งจับตาดูค่าเงินบาทนั้นมีผลจำกัด ตลาดยังลงทุนอย่างระวังระวัง ไม่เทไปด้านใดด้านหนึ่ง" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 36.90 - 37.05 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 143.72 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 143.10 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0004 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0038 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,638.59 จุด เพิ่มขึ้น 7.02 จุด, +0.43% มูลค่าการซื้อขาย 65,130.39 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 414.62 ล้านบาท (SET+MAI)
- พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) ติดตามสถานการณ์เงินบาทอย่างใกล้ชิด และประชุมรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาทำเป็นนโยบายในเรื่อง
การกำหนดเสถียรภาพต่างๆ
- ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เชื่อว่าการแกว่งตัวของบาทในกรอบ
37.00-37.50 บาท/ดอลลาร์ น่าจะยังคงเกิดขึ้นในระยะสั้น ภายใน 1 เดือน แต่ถ้าหลังจากนั้น การส่งออกยังดีอยู่ การท่องเที่ยวกลับ
เข้ามา และธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มปรับดอกเบี้ยขึ้น และทำให้ช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยสหรัฐฯ กับไทยไม่ต่างกันมาก เชื่อว่าเงินบาท
น่าจะไม่หลุด 37.00 บาท/ดอลลาร์ ไปไกลนัก และอาจกลับเข้ามาที่กรอบ 36.50-37.00 บาท/ดอลลาร์ ได้ช่วงปลายไตรมาส 4/65
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย ขยายระยะเวลาในการพำนักในราชอาณาจักร
สำหรับคนต่างด้าวบางจำพวกที่เดินทางเข้าประเทศไทย ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65-31 มี.ค.66 เพื่อเป็นการกระตุ้นให้
เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและเพิ่มค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวระหว่างที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการฟื้นฟู
เศรษฐกิจการท่องเที่ยวและเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
- ครม. มีมติลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคมในมาตรา 33 ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง เป็นระยะเวลา 3 เดือน (ต.ค.-
ธ.ค.65) จากเดิมที่จัดเก็บในอัตรา 5% เหลือ 3% และสำหรับผู้ประกันตน มาตรา 39 จะปรับลดการจ่ายเงินเข้ากองทุนจาก 432 บาท
เหลือ 240 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือนเช่นเดียวกัน เพื่อบรรเทาภาระนายจ้างและผู้ประกันตนให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะ
เศรษฐกิจและค่าครองชีพ
- ธนาคารกลางสวีเดน หรือริกส์แบงก์ (Riksbank) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1% สู่ระดับ 1.75% ในวันนี้ (20
ก.ย.) โดยเป็นการดำเนินการที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด พร้อมเตือนว่า อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคตเพื่อสกัดเงิน
เฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
- สำนักเลขาธิการฝ่ายเศรษฐกิจแห่งรัฐของสวิตเซอร์แลนด์ (SECO) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ลงอย่างมากในวันนี้ (20 ก.ย.) โดยอ้างอิงปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์ความตึงเครียดด้านพลังงานและเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
- นักลงทุนรอดูผลการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เพื่อประเมินทิศ
ทางดอกเบี้ยในอนาคต