(เพิ่มเติม) ธปท.เตรียมหารือแบงก์พาณิชย์ กำหนดวงเงินโอนสำหรับเยาวชน สกัดบัญชีม้า

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 21, 2022 15:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า มิจฉาชีพว่าจ้างให้เยาวชนเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) จำนวนมากขึ้นนั้น ธปท. ขอชี้แจงว่าหลักเกณฑ์การเปิดบัญชีของเยาวชน โดยปกติธนาคารมีระเบียบการเปิดบัญชีที่กำหนดอายุขั้นต่ำที่สามารถเปิดบัญชีไว้ ซึ่งหากอายุไม่ถึงตามเงื่อนไข จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองและจะต้องให้ผู้ปกครองมาร่วมเปิดบัญชีด้วย

อย่างไรก็ตาม เยาวชนยังสามารถเปิดบัญชีได้ด้วยตนเอง หากอายุเกินขั้นต่ำที่กำหนด ซึ่งกลุ่มลูกค้าดังกล่าว ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งอาจไม่เท่าทันเหล่ามิจฉาชีพและอาจตกเป็นเหยื่อได้ ธปท. จึงให้ความสำคัญกับกลุ่มเหล่านี้ โดยได้ให้ธนาคารมีการติดตามความเคลื่อนไหวธุรกรรมโดยเฉพาะกลุ่มนี้เป็นพิเศษ หากพบธุรกรรมผิดปกติจะต้องดำเนินการตอบสนองโดยเร็ว และมีการจำกัดวงเงินต่อวันในการทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Mobile Banking ตามระดับความเสี่ยงของลูกค้า

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดวงเงินมาตรฐานสำหรับกลุ่มเยาวชน ซึ่ง ธปท. อยู่ระหว่างหารือกับธนาคาร เพื่อพิจารณากำหนดวงเงินที่เหมาะสมตามความเสี่ยงของกลุ่มต่อไป เนื่องจากพบเยาวชนโอนเงินได้ถึง 500,000 บาทต่อวัน

น.ส.สิริธิดา กล่าวว่า การเปิดบัญชีเพื่อใช้ในการทำทุจริต หรือที่เรียกว่าบัญชีม้านั้น ธปท. ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐอย่างใกล้ชิด เช่น ตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นต้น รวมถึงสมาคมธนาคารไทย และธนาคารทุกแห่ง เพื่อแก้ไขปัญหา ตั้งแต่การกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้มีเปิดบัญชีไปใช้ในการทำทุจริต การตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกรณีบัญชีม้า และเมื่อตรวจพบให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว และรายงานต่อสำนักงาน ปปง. รวมถึงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอายัดบัญชี และสบับสนุนข้อมูลสำหรับสืบสวนสอบสวนอย่างทันกาล

ที่ผ่านมา มีสถิติการตรวจจับบัญชีม้าเพิ่มขึ้น โดยจะเห็นได้จากสถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าจำนวนบัญชีม้าที่ธนาคารส่งให้สำนักงาน ปปง. ตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกเดือน จาก 6,211 บัญชี ในเดือน พ.ค. 2565 เป็น 14,369 บัญชี ในเดือน ส.ค. 2565 เนื่องด้วยในช่วงที่ผ่านมา ตำรวจและสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการตรวจจับและกวาดล้างบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง

น.ส.สิริธิดา กล่าวว่า ขอเตือนประชาชน หรือมีข้อสังเกต เพื่อไม่ให้คนตกเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ โดยไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ที่จะได้จากการรับจ้างเปิดบัญชี เพราะสุดท้ายอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย และถูกดำเนินคดี ไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้รับ และหากมีเงินเข้าบัญชีโดยไม่ทราบที่มา ต้องไม่โอนเงินกลับไปให้คนที่ไม่รู้จัก เพราะเราอาจถูกหลอกให้โอนเงินผิดกฎหมาย และกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ดังนั้นจึงควรแจ้งธนาคารเมื่อได้รับเงินโดยไม่ทราบที่มาทุกครั้ง

"ขอให้มีสติ ไม่หลงเชื่อกับรางวัลหรือผลประโยชน์ที่มีการเสนอโดยไม่มีเหตุผล หรือไม่หลงเชื่อใครง่าย ๆ โดยเฉพาะโทรมาทางโทรศัพท์หรือออนไลน์ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ธนาคาร เรียกตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะเจ้าหน้าที่รัฐหรือธนาคารไม่มีการดำเนินการลักษณะดังกล่าว" น.ส.สิริธิดา กล่าว

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลห่วงใยกรณีเด็กและเยาวชนถูกล่อลวงให้เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารให้ผู้อื่น รับจ้างหรือขายบัญชี เนื่องจากมิจฉาชีพจะนำไปใช้เป็นช่องทางในการรับเงินและถ่ายโอนเงินจากการกระทำความผิดกฎหมายหลอกลวงประชาชนเพื่อป้องกันไม่ให้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงมาถึงตัว ซึ่งเรียกว่า "บัญชีม้า" เมื่อมีการกระทำความผิดเจ้าของบัญชีม้าจะมีความผิดฐานเป็นตัวการหรือเป็นผู้สนับสนุนในความผิดนั้นๆ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมาตรา 86 อีกทั้งอาจถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน ระวางโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542

ที่ผ่านมารัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการในการป้องกันและปราบปรามปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังและเข้มข้น แต่ยังพบว่ายังมีการเปิดบัญชีม้าจากผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือยอมรับความเสี่ยงจากผลประโยชน์ตอบแทนบัญชีละ 500-800 บาท จึงขอให้เยาวชน และประชาชนอย่าหลงเชื่อขายหรือรับจ้างเปิดบัญชีให้ผู้อื่นโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะถูกล่อลวงหรือเต็มใจ อาจถูกดำเนินคดีถูกจับติดคุก บางรายก็เสี่ยงเกิดอันตรายต่อชีวิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ