ภาคเอกชนชูความสำคัญ ESG เพิ่มโอกาสการลงทุน-สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 21, 2022 18:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยในการบรรยายพิเศษจุดเปลี่ยน...ศักยภาพใหม่เศรษฐกิจไทย ว่า เศรษฐกิจไทยในอนาคตถือว่ามีการเติบโต และปัจจุบันอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว อยู่ที่ว่าแต่ละธุรกิจจะสามารถคว้าโอกาสนี้ร่วมกันได้อย่างไร ขณะเดียวกันก็มีความท้าทายใหม่ เช่น โครงสร้างประชากร พฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น เรื่อง ESG จึงถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งหากบริษัทไม่ดำเนินการในเรื่องนี้ อาจทำให้สูญเสียโอกาสในการทำธุรกิจ และความเชื่อมั่นจากลูกค้าได้

จากผลสำรวจในด้าน ESG ในแง่ของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakehoder) พบว่า ลูกค้าของธนาคารฯ ในกลุ่มที่มีนัยสำคัญ พร้อมที่จะจ่ายมากขึ้น หากผลิตภัณฑ์ของธนาคารฯ ผ่านเกณฑ์ ESG, ในเรื่องของ Employes หรือสิทธิมนุษยชน จะสำคัญมาก และการทำให้พนักงงานมีคุณค่าต่อองค์กร จะยกระดับให้ ESG ของธนาคารฯ ให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง, Investers ก่อนตัดสินใจลงทุนใดๆ จะมองหาเกณฑ์ ESG ว่าผ่านหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันนักลงทุนมีความเข้าใจมากขึ้นต่อ ESG ว่าเป็นสิ่งสำคัญ, Regulators & Goverments หรือกฎระเบียบข้อบังคับ เพิ่มให้ความสำคัญ เพื่อผลักดันองค์กรเปลี่ยนผ่านไปสู่ ESG, Suppliers หรือ พาสเนอร์ ธนาคารฯ จะเบือกทำงานกับพาวเนอร์ที่มีปรัชญา หรืออุดมการณ์เกี่ยวกับ ESG ที่เหมือนกัน และสังคม ชุมชน ปัจจุบันมีความตระหนักถึงปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

"ESG ไม่ใช่เรื่องของ CSR หรือการกุศล แต่เป็นเรื่องของธุรกิจ โดยจากการสำรวจในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ในเรื่องการลงทุน หากไม่มี ESG อาจทำให้มีผลต่อการลงทุนได้ โดยปัจจุบันพบว่า นักลงทุนทั้งหลาย ก่อนจะตัดสินใจลงทุนจะมองหาเกณฑ์เรื่อง ESG ประกอบด้วย และในเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก"นางสาวขัตติยา กล่าว

พร้อมกันนี้ธนาคารฯ มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 73 และมุ่งสนับสนุนความพยายามของประชาคมโลกในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 93 โดยเตรียมเม็ดเงิน 100,000-200,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยสินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืน สนับสนุนลูกค้าเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเต้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีทีโกลบอล เคมิคอล (PTTGC) กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จะเติบโตเฉลี่ย 4% ต่อปี ผ่านการดำเนินกลยุทธ์ด้วยกัน 3 เรื่อง คือ Step Change, Step Out และ Step Up เพื่อมุ่งสู่องค์กรคาร์บอนต่ำ โดยวางเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20% ภายในปี 73 และเป็นศูนย์ภายในปี 93

บริษัทฯ จะเน้นการลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์มูลค่าสูง คาร์บอนต่ำ โดยล่าสุด PTTGC ได้เปิดตัว โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก รีไซเคิลคุณภาพสูง ENVICCO พร้อมดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว โดยใช้วัตถุดิบทั้งหมด 100% เป็นพลาสติกใช้แล้วในประเทศ ผ่านเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย เพื่อคืนคุณค่าให้กับพลาสติก ใช้แล้วให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าอีกครั้ง มีคุณสมบัติเทียบเท่าพลาสติกใหม่ โรงงานนี้ถือเป็นหนึ่งในแผนกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทฯ ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน

สำหรับ โรงงานนี้มีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลสูงถึง 45,000 ตัน/ปี แบ่งเป็นเม็ดพลาสติก ชนิด rPET จำนวน 30,000 ตัน/ปี และ เม็ดพลาสติก ชนิด rHDPE จำนวน 15,000 ตัน/ปี การดำเนินการของ ENVICCO จะช่วยลดขยะพลาสติกในประเทศไทย ได้ถึง 45,000 ตัน/ปี ลดก๊าซเรือนกระจกได้ 75,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เทียบเท่าการปลูกป่าประมาณ 78,000 ไร่ หรือ ปลูกต้นไม้ใหญ่กว่า 8.32 ล้านต้น

พร้อมกันนี้มอง ESG จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจในปัจจุบัน เช่น เพิ่มโอกาสในการดึงดูดบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ โดย 40% ของคนรุ่นใหม่ เลือกที่จะทำงานกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้วยหลักการด้านความยั่งยืน, นักลงทุน เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่ๆ เช่น Green Finance ซึ่งมูลค่าการลงทุนใน Sustainable Asset เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง, หน่วยงานกำกับดูแล สามารถดำเนินธุรกิจตามข้อกำหนด นโยบาย หรือข้อบังคับต่างๆ, นักเคลื่อนไหว สามารถสร้างบรรทัดฐาน ความรู้ความเข้าใจในวงกว้าง และคู้ค้า สามารถดึงดูดคู่ค้าที่มีความสนใจ และให้ความสำคัญในด้าน ESG โดยมากกว่า 20% ของคู่ค้า ยินยอมจ่ายส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นกว่า 10% เพื่อซื้อ Sustainable Goods

นอกจากนี้ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ เช่น สร้างฐานลูกค้าใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ผสานแนวคิดความยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, เข้าถึงแหล่งทรัพยากรณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากภาพลักษณ์และการดำเนินงานที่ดี ร่วมกับชุมชนและหน่วยงานภายนอก/ ภาครัฐต่างๆ, ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีการใช้ทรัพยากรณ์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดปริมาณของเสีย และขยะจากการดำเนินงาน, ลดความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดต่างๆ และได้รับประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนต่างๆ เช่น BOI ด้านการลงทุน เป็นต้น, สร้าง Motivation ให้พนักงาน ดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดด้านความยั่งยืน ให้เข้ามาทำงานกับองกรณ์, สร้างโอกาสทำผลกำไรต่อเนื่องในระยะยาว ลดความเสี่ยงจากการไปลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาส ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดในอนาคต

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เบทาโกร (BAG) กล่าวว่า บริษัทฯ ถือว่ามีบทบาทที่สำคัญของวงจรอาหารในไทย โดยปัจจุบันมีสัดส่วนซัพพลายอาหารเข้าไปในระบบการบริโภคของไทยราว 15% ขณะเดียวกันนอกจากการให้ความสำคัญทางด้านอาหารแล้ว บริษัทฯ ยังเน้นย้ำในเรื่องของการช่วยเหลือ ที่จะทำให้ประชาชน ชุมชน ประสบความสำเร็จในคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยอาหารที่มีคุณภาพที่ดีกว่า มีความปลอดภัยที่สูงกว่า และในราคาที่ยุติธรรม ซึ่งถือเป็นบริบทที่สำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตามบนความเชื่อในบริบทของบริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับความทำงานอย่างหนัก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพที่ดีกว่า และปลอดภัยมากกว่าให้กับชุมชนและสังคมได้

"เราเป็นบริษัทที่มีจรรยาบรรรณสูง มีการรับฟังบุคคลากรภายในองค์กร ลูกค้า คู่ค้า หรือผู้บริโภค และมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อส่งมอบอาหารที่มีความปลอดภัยและเพียงพอได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต และมีความใส่ใจอาหารเพื่อให้มีคุณภาพ รวมถึงสนับสนุนให้อุตสาหกรรมอาหารมีความยั่งยืน เบทาโกร จึงให้ความสำคัญกับความทำงานในด้านโซลูชั่น การพัฒนาร่วมกับคู่ค้าของเรา" นายวสิษฐ กล่าว

ทั้งนี้มองในเรื่องของความยั่งยืนเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก จากที่ผ่านมาบริษัทได้ให้ความสำคัญใน 4 ด้าน ประกอบด้วย ความเพียงพอของอาหาร, Good health and Well being, ความรับผิดชอบต่อสังคมและลูกค้า และการเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะที่ปัจจุบันได้มีการนำเอาเรื่องของ ESG เข้ามาบทบาทกับเบทาโกรมากขึ้น โดยให้ความสำคัญในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (Climate Change) มาเป็นอันดับต้นๆ ผ่านการทำงานร่วมกับหลายภาคส่วนเพื่อให้บริหารจัดการทางด้านขยะให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบกับให้ความสำคัญกับการจัดการสิ่งแวดล้อม จากเป็นโรงงานขนาดใหญ่ รวมถึงการมองหาบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ