มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ขณะที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องแบกรับภาระหนักในการกอบกู้เศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกไว้นั้น คาดว่านายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ และนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะร่วมดำเนินการตามเจตนารมณ์เดียวกับนายเบอร์นันเก้ ด้วยการจัดหาวงเงินกู้ให้กับสถาบันการเงินและอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ เพื่อคลี่คลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ อีกทั้งคาดว่า ธนาคารกลางเหล่านี้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหากสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติ
นายโจชิม เฟลส์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า "เราใกล้จะอยู่ในยุคที่ธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ทั่วโลกร่วมมือกันผ่อนปรนนโยบายด้านการเงิน ผมคาดว่าผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษจะเห็นชอบให้มีการผ่อนปรนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และคาดว่าประธานธนาคารกลางยุโรปจะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอีก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเท่ากับช่วยแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้งของประธานเฟด"
"ประธานเฟดต้องการความช่วยเหลือจากธนาคารกลางรายใหญ่ทั่วโลก ที่ผ่านมานั้นเฟดได้ปรับลดดอกเบี้ยในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 20 ปี พร้อมกับอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารของสหรัฐหลายครั้ง อีกทั้งเปิดประมูลวงเงินกู้ เพื่อช่วยผ่อนคลายภาวะตึงตัวในตลาด หลังจากวาณิชธนกิจแบร์ สเติร์นส์ ล้มละลาย" เฟลส์กล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--