นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบความคืบหน้าการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64 ถึงวันที่ 16 ก.ย. 65 ในภาพรวมมีการเบิกจ่ายแล้ว 90.27% ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยที่ตั้งไว้ 93% โดยเป็นการเบิกจ่ายงบประจำ 96.47% การเบิกจ่ายงบลงทุน 64.21% และการเบิกจ่ายงบกันไว้เบิกเหลื่อมปี 81.82%
สำหรับหน่วยงานที่สามารถเบิกจ่ายได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส), กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), กระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ในส่วนของการเบิกจ่ายภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่มี 1,094 โครงการ สามารถเบิกจ่ายได้แล้ว 97% โดยมีปัญหาเรื่องความล่าช้าในการก่อสร้าง และผู้ประกอบการเข้าข่ายทุจริต และการเบิกจ่ายภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 5 แสนล้านบาท สามารถเบิกจ่ายได้แล้ว 80% โดยมีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงประเภทวัคซีน ซึ่งต้องเร่งจัดหาวัคซีนให้ครบตามเป้าหมายภายในเดือน ธ.ค. 65
สำหรับ มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบ ฯ และการเบิกจ่ายภาครัฐ ประจำปีงบฯ 66 ได้แก่ การกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบ ฯ รายจ่ายภาพรวมไม่น้อยกว่า 93% รายจ่ายประจำไม่น้อยกว่า 98% และรายจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่า 75% ขณะที่ เป้าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจกำหนดไม่น้อยกว่า 95% ของกรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติเบิกจ่ายลงทุน และเร่งรัดการลงทุนที่ผูกพันสัญญาไว้แล้ว นอกจากนี้ ยังให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานที่ดำเนินโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนที่มีโครงการลงทุนตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป จัดทำมาตรการ/แนวทางในการแก้ไขปัญหาและกำหนดเวลาแล้วเสร็จของโครงการและเวลาเปิดให้บริการที่ชัดเจนด้วย