นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า หุ้นจีนจะยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 2 ของปี อันเป็นผลมาจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดของจีน รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคที่สูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทต่างๆ
"แรงกดดันด้านสภาพคล่อง เศรษฐกิจมหภาคที่ย่ำแย่ลง และผลประกอบการภาคเอกชน จะเป็น 3 ปัจจัยหลักที่นักลงทุนในหุ้นกระดานเอให้ความสำคัญ อย่างน้อยก็ในระยะสั้น" สตีเว่น ซัน นักยุทธศาสตร์จากฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ แบงค์กิง คอร์ป กล่าว
ในไตรมาสแรกของปี ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ร่วงลงกว่า 30% จากช่วงสิ้นปีที่แล้ว เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในเอเชีย โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเหตุพายุหิมะครั้งใหญ่ และนักวิเคราะห์เชื่อว่าตลาดหุ้นจีนน่าจะปรับตัวลดลงอีก เนื่องจากเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวได้ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทต่างๆ
เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัว 11.4% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 13 ปี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนคาดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงเหลือ 8% ในปีนี้ เนื่องจากธนาคารกลางจีนได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยและใช้มาตรการควบคุมทางการเงินที่เข้มงวดเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีในเดือนก.พ. ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,472.71 จุดเมื่อสิ้นสุดไตรมาสแรก หรือต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ 6,124.04 จุดในเดือนต.ค.อยู่ 43%
นักวิเคราะห์เชื่อว่าดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตจะยังไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้มากนักในไตรมาส 2 เนื่องจากตลาดโลกยังคงขาดเสถียรภาพ
ยูจีน ลอว์ หัวหน้านักวิจัยจากเซเลสเชียล เอเชีย ซีเคียวริตี้ส์ กล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซา ตลาดหุ้นเอเชียที่ผันผวน และนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดของจีน จะส่งผลกระทบต่อหุ้นกระดานเอในตลาดหุ้นจีนอย่างแน่นอน" สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--