น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม - สิงหาคม 2565 อยู่ที่ 150.92 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.2% โดยการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 17.6% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 80% น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 18.6% LPG เพิ่มขึ้น 10.8% และการใช้ NGV เพิ่มขึ้น 8.4% การใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 4.5% ขณะที่น้ำมันก๊าดลดลง 8.1%
ทั้งนี้ ภาพรวมความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายและมีแนวโน้มดีขึ้น จากการดำเนินมาตรการทางสาธารณสุขจนสามารถผ่อนปรนมาตรการและข้อจำกัดต่างๆ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มกลับมาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น
สำหรับการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 29.80 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.5% สำหรับการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ อี85 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.99 ล้านลิตร/วัน 15.76 ล้านลิตร/วัน และ 0.94 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 และเบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 5.56 ล้านลิตร/วัน และ 0.54 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 72.86 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.6% การใช้ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลจากมาตรการช่วยเหลือโดยตรึงราคาให้ไม่เกิน 30-35 บาท/ลิตร ของมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังมีความผันผวนสูง รวมทั้งปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นจากภาคไฟฟ้า สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 64.34 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลพื้นฐานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.61 ล้านลิตร/วัน ขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 2.71 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้ 0.19 ล้านลิตร/วัน
ส่วนการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 7.82 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 80% เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการการบินและการเดินทางเข้า-ออกประเทศ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น
การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 18.29 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.8% เนื่องจากการใช้ในทุกภาคเพิ่มขึ้น โดยภาคขนส่งอยู่ที่ 2.16 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 28.1% ภาคปิโตรเคมีอยู่ที่ 8.35 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 12.5% ภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 2.04 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 11.8% และภาคครัวเรือนอยู่ที่ 5.75 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 3.1%
การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.4% อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 พบว่ายังคงทรงตัวในระดับเดิม
การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยอยู่ที่ 1,028,795 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.7% เนื่องจากความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น โดยการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 958,752 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 10.4% โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 109,891 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 99.2% สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 70,042 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 5,939 ล้านบาท/เดือน
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกอยู่ที่ 169,445 บาร์เรล/วัน ลดลง 12.6% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 21,978 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 67.8%