ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (10-14 ต.ค.) ที่ระดับ 37.00-37.80 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดในวันศุกร์ที่ 7 ต.ค. 65 ที่ระดับ 37.37 บาท/ดอลลาร์ หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 37.13 บาท/ดอลลาร์
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทพลิกแข็งค่า แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ตามทิศทางของสกุลเงินเอเชียท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ก่อนจะพลิกกลับมาทยอยแข็งค่าขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์ อ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนี ISM ภาคการผลิตและตัวเลขการเปิดรับสมัครงานออกมาอ่อนแอกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด ทั้งนี้แรงขายเงินดอลลาร์ ชะลอลงบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ แต่เงินดอลลาร์ ยังขาดแรงหนุนใหม่ๆ เนื่องจากตลาดยังคงรอติดตามข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
สำหรับมุมมองต่อสถานการณ์เงินบาทนั้น ธปท. ระบุว่า การอ่อนค่าของเงินบาท มีสาเหตุมาจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยธปท. เข้าไปดูแลตลาดในบางช่วงเพื่อลดความผันผวนของค่าเงินบาท
โดยระหว่างวันที่ 3-7 ต.ค. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,202 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Inflow เข้าสู่ตลาดพันธบัตร 3,171 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 4,142 ล้านบาท แต่มีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 971 ล้านบาท)
ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่ กระแสเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค มุมมองต่อทิศทางนโยบายการเงินของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ปรับทบทวนใหม่โดย กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. (เบื้องต้น) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามบันทึกการประชุมเฟด (20-21 ก.ย.) ผลการประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ และตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือนก.ย. ด้วยเช่นกัน