ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 38.23 แกว่งตามแรงซื้อขาย เหตุไร้ปัจจัยใหม่ กรอบพรุ่งนี้ 38.10-38.35

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 17, 2022 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 38.23 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก น้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 38.26 บาท/ดอลลาร์

ในระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 38.07 - 38.26 บาท/ดอลลาร์ วันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหว ของค่าเงินมากนัก โดยเงินบาทยังเคลื่อนไหวไปตามแรงซื้อ-แรงขาย ตามปกติในระหว่างวัน

อย่างไรก็ดี ตลาดจับตาดูการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) หลังจากที่เงินเยนอ่อนค่ามากสุดถึง 32 ปี เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงติดตามนโยบายการเงิน-การคลัง ของอังกฤษ หลังจากมี รมว.คลัง คนใหม่

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 38.10 - 38.35 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 148.69 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 148.57 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9749 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 0.9746 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,571.40 จุด เพิ่มขึ้น 10.62 จุด (+0.68%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 66,745 ล้าน
บาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,388.46 ลบ.(SET+MAI)
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจ (GDP) ปี 65 ของไทยอีกรอบ ในเดือน
ต.ค.นี้ จากปัจจุบันที่คาดว่าจะโตได้ 3-4% (ค่ากลาง 3.5%) เนื่องจากมองว่าภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามา
ช่วยขับเคลื่อนและหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยราว 8-10 ล้านคน
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ย้ำการดำเนินนโยบายการเงินของไทย มุ่งทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจดำเนินไปได้
อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด และไม่สร้างแรงกดดันเพิ่มเติม พร้อมเชื่อว่า เสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยที่เข้มแข็ง จากทุนสำรองระหว่าง
ประเทศที่อยู่ในระดับสูงนี้ ยังสามารถรองรับความผันผวนของค่าเงินที่เกิดขึ้นได้
  • ธปท. เห็นว่าการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยังเป็นแนวทางที่เหมาะสม แต่ก็พร้อมที่จะปรับขนาด และเงื่อนเวลาในกรณีที่
แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าเปลี่ยนแปลงไปจากที่ได้ประเมินไว้ ขณะเดียวกันเห็นว่าต้องใช้เวลาอีกราว 1 ปีครึ่ง - 2
ปี กว่าที่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้เต็มศักยภาพ
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นกำลังเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น
และ BOJ จำเป็นต้องคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ (Ultralow Interest Rate Policy) ต่อไป เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจญี่ปุ่น
ที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า ภาวะเงินเฟ้อสูงของสหรัฐ ยังคงจัดการได้ยาก และหากธนาคารกลาง
สหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติการคุมเข้มนโยบายการเงินดังที่ได้วางแผนไว้ในสถานการณ์เช่นนี้ จะทำให้สูญเสียความน่าเชื่อถืออย่างมาก ดัง
นั้นเฟดจึงควรดำเนินตามแผนต่อไป
  • คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ระบุว่า เศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส
3/2565 และการจ้างงานโดยรวมยังคงมีเสถียรภาพ พร้อมมองว่า เศรษฐกิจจีนจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากผลพวงของการใช้นโยบายมหภาค
  • เทศบาลเมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตไอโฟน (iPhone) ได้สั่งให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยในเขตจงหยวน เกือบ 1
ล้านคน กักตัวอยู่บ้านตั้งแต่วันนี้ (17 ต.ค.) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวมถึงให้ระงับการดำเนินกิจการที่ไม่จำ
เป็น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ