น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการขอจัดตั้งกองทุนพัฒนาวิสาหกิจ ตามร่าง พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาวิสาหกิจ พ.ศ. .... ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
ทั้งนี้ การจัดตั้งกองทุนพัฒนาวิสาหกิจ จะเป็นการยกระดับการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี (SMEs) ตามแนวประชารัฐ (เดิม) ให้มีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากขึ้น โดยจะเน้นการส่งเสริมสนับสนุนให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน และเพิ่มช่องทางเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับวิสาหกิจที่มีศักยภาพ มุ่งเน้นการให้กู้ยืม และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ SMEs ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และเป็นนิติบุคคลที่ไม่ใช่คนต่างด้าว เพื่อให้เพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถของผู้ประกอบการ รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและพัฒนาวิสาหกิจ
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า กองทุนพัฒนาวิสาหกิจ เป็นกองทุนที่ตั้งใหม่แทนกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ (เดิม) มีกลไกที่แก้ไขข้อขัดข้องของกองทุนเดิมให้หมดไป ซึ่งกองทุนนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาด้านมาตรฐาน การเพิ่มผลิตภาพ และนวัตกรรมของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เป็นนิติบุคคลที่ประกอบกิจการ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (10 S-Curve) รวมถึงอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
"กองทุนจะส่งเสริมสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน และเพิ่มช่องทางเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับวิสาหกิจที่มีศักยภาพ โดยมุ่งเน้นการให้กู้ยืม และให้ความช่วยเหลือแก่ SMEs ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย และเป็นนิติบุคคลที่ไม่ใช่คนต่างด้าวให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา และพัฒนาวิสาหกิจตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุน เห็นสมควรด้วย" น.ส.ทิพานัน กล่าว
อย่างไรก็ดี ในการบริหารงานและแหล่งเงินทุนจะมีความโปร่งใส ต้องมีการแสดงรายละเอียดของการบริหารทุนหมุนเวียน เช่น การบริหารกระแสเงินสดรับ-จ่าย จากการให้กู้ยืมแก่กลุ่มเป้าหมายในแต่ละปี หรือระบุให้ชัดเจนว่ามีแหล่งเงินทุนมาจากแหล่งใด และต้องช่วยเหลือแก่ SMEs อุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างแท้จริง