นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 38.07 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเมื่อ เช้าที่ระดับ 38.05 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาคและทิศทางของเงินทุนต่างประเทศ โดยระหว่างวันเงิน บาทเคลื่อนไหวในกรอบ 37.92 - 38.18 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้บาทผันผวน แต่ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาคและ Flow ไหลออกหลังต่างชาติขายพันธบัตร 2.8 พันล้านบาท ช่วง นี้ตลาดดูปัจจัยต่างประเทศ แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 38.00 - 38.20 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 149.04 เยน/ดอลลาร์ ทำนิวไฮในรอบ 32 ปี จากช่วงเช้าที่ระดับ 148.86 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 0.9836 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 0.9846 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,590.36 จุด เพิ่มขึ้น 18.96 จุด, +1.21% มูลค่าการซื้อขาย 63,968.20 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 423.44 ล้านบาท(SET+MAI)
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องแม้ว่าเศรษฐกิจอื่นในต่างประเทศจะเผชิญกับการชะลอตัว
เนื่องจากประเทศไทยยังมีกันชนในส่วนของภาคการเงินต่างประเทศ (external finance) ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง รวมทั้งการฟื้นตัวของ
อุปสงค์ภายในประเทศและภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผลการดำเนินงานโดยรวมของภาคธนาคารและภาคธุรกิจอุตสาหกรรมน่าจะปรับ
ตัวดีขึ้นต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามการเติบโตอาจจะถูกจำกัดโดยต้นทุนพลังงานที่สูง
- นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทุกกระทรวงเร่งจัดทำแผนของขวัญปีใหม่ 2566 ที่จะมอบให้กับประชาชนในช่วงปลายปีนี้ ทั้งการ
กระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการช่วยเหลือประชาชน หรือมาตรการอื่นๆ ที่จะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย
- รองนายกรัฐมนตรี เผยรัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ คาดจะนำเสนอเข้าสู่ที่
ประชุม ครม.ได้ราวกลางเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นมาตรการที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ เช่น คนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน หรือ เที่ยวด้วยกัน เป็นต้น
- ครม.รับทราบมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยปี 2565 จากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
7 แห่ง จำนวน 21 มาตรการ และจาก 6 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง
- ครม.อนุมัติยกเว้นภาษีเงินได้ให้นักแสดงต่างชาติในภาพยนตร์ที่มาถ่ายทำในประเทศไทย 5 ปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและ
การท่องเที่ยวหลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ให้ฟื้นตัว
- นักเศรษฐศาสตร์หลายรายมองว่า ภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงมีแนวโน้มที่สดใส แม้ว่า
เศรษฐกิจทั่วโลกมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะถดถอยในปีหน้า
- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีแนวโน้มจะชะลอการขายพันธบัตรรัฐบาลมูลค่าหลายพันล้านปอนด์เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพใน
ตลาดพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษมากขึ้น หลังอังกฤษยกเลิกแผนลดภาษีครั้งใหญ่
- นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้กล่าวคำขอโทษสำหรับความผิดพลาดที่เธอประกาศมาตรการปรับลดภาษีวงเงิน 4.5 หมื่นล้านปอนด์
ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก อีกทั้งยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทำให้คะแนนนิยมของเธอลดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ดี เธอยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง
- รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมีความพร้อมที่จะใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับความผันผวนในตลาดปริวรรตเงิน
ตราต่างประเทศ หลังจากเงินเยนร่วงลงสู่กรอบ 149 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 32 ปี
- ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เผยฟิลิปปินส์จะยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาเงินเฟ้อ และอาจเข้ามาดำเนินการเพื่อปกป้อง
เงินเปโซที่อ่อนค่า
- หัวหน้านักวิเคราะห์จากธนาคารสแตนดาร์ด แบงก์ กล่าวว่า การที่จีนเลื่อนการเปิดเผยข้อมูล GDP ประจำไตรมาส 3
อย่างเหนือความคาดหมายนั้น ทำให้จีนถูกมองว่ากระทำการอย่างไม่เหมาะสม เนื่องจากตัวเลข GDP ของจีนเป็นข้อมูลที่นักลงทุนทั่วโลกจับ
ตาอย่างใกล้ชิด