ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 38.24 อ่อนค่าจากช่วงเช้า หลังเงินไหลออกรับผลต่างชาติขายพันธบัตร

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 19, 2022 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 38.24 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 38.07 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 37.95 - 38.24 บาท/ ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทปิดที่ระดับอ่อนค่าสุดของวัน เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิพันธบัตรประมาณ 4,900 ล้านบาท มีกระแส เงินทุนไหลออก และในช่วงบ่ายสกุลเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยตลาดยังรอดูสัญญาณจากธนาคารสหรัฐฯ (เฟด) และยังไม่มีปัจจัยใหม่ หลังจากที่มีการขายดอลลาร์ทำกำไรเมื่อคืนที่ผ่านมา วันนี้นักลงทุนกลับเข้าถือครองดอลลาร์อีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ ประเทศอังกฤษ ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเกินระดับ 10% ทำให้ตลาดกลับมากังวลอีกครั้ง ในส่วนของสกุลเงินช่วงบ่ายเคลื่อนไหวทิศทาง เดียวกับเงินบาท

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 38.10 - 38.25 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้อง ติดตามคืนนี้ คือ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักมากเหมือนตัว เลขเงินเฟ้อ หรือการจ้างงาน

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 149.45 เยน/ดอลลาร์ ยังอยู่ในระดับอ่อนค่าในรอบ 32 ปี จากช่วงเช้าที่ระดับ 149.16 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 0.9810 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 0.9856 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,588.72 จุด ลดลง 1.64 จุด (-0.10%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 48,990 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 309.28 ลบ. (SET+MAI)
  • โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการใช้จ่ายภายใต้โครงการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดย
ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ต.ค.65 เวลา 23.00 น. มีผู้ใช้สิทธิสะสมรวม 38.22 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสมรวม 40,053.9 ล้านบาท
  • คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์กรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่างบมจ.ทรู คอร์ปอ
เรชั่น (TRUE) และบมจ.โทเทิ่ล แอ๊คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ห่วงอาจเข้าข่ายเป็นการผูกขาดและมีอำนาจเหนือตลาด ทำให้ผู้
บริโภคขาดทางเลือกหรือมีทางเลือกน้อยลง กระทบต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของประชาชน
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนีแอโพลิส เปิดเผยว่า เฟดอาจจำเป็นต้องผลักดันอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้
สูงกว่า 4.75% หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังปรับตัวสูงขึ้นแบบต่อเนื่อง
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้
บริโภค พุ่งขึ้น 10.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 10% เนื่องจากราคา
อาหารและพลังงานปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวัน เปิดเผยว่า ไต้หวันจะเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจที่รุนแรงในปี 66 ซึ่งทำให้เป็นเรื่อง

ยากกว่าเดิมที่จะคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และภาวะเงินทุนไหลออก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ