นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ก.ย.65 อยู่ที่ 100,389 คัน ขยายตัว 35.97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 91,067.74 ล้านบาท จาก 66,095.86 ล้านบาทในเดือนก.ย.64
"ยอดส่งออกเดือนกันยาฯ เกิน 1 แสนคัน สูงสุดในรอบ 9 เดือน หลังจากสถานการณ์ขาดแคลนชิปคลี่คลาย มีการส่งมอบให้มากขึ้น" นายสุรพงษ์ กล่าว
ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.65) อยู่ที่ 706,444 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.28% โดยมีมูลค่าการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 642,551.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.48%
สำหรับจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือน ก.ย.65 มีจำนวน 179,237 คัน สูงสุดในรอบ 9 เดือน เพิ่มขึ้น 27.99% จากเดือน ก.ย.64 และเพิ่มขึ้น 4.37% จากเดือน ส.ค.65 โดยเป็นการผลิตเพื่อส่งออกได้ถึง 106,190 คัน เท่ากับ 59.25% ของยอดผลิตทั้งหมด เนื่องจากได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้นในรถยนต์บางรุ่นที่ผลิตเพื่อส่งออก โดยเฉพาะรถกระบะและรถ PPV ที่เพิ่มขึ้น 52.27% และ 132.97% จากเดือน ก.ย.64 ตามลำดับ และผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้น 39.92% ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 1,364,037 คัน เพิ่มขึ้น 12.55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ยอดผลิตรถยนต์ปีนี้อาจกลับไปได้ตามเป้าเดิม 1.8 ล้านคัน ขึ้นอยู่กับการส่งมองชิป ขอดูสถานการณ์อีก 1 เดือนก่อนว่าจะปรับเป้าหรือไม่" นายสุรพงษ์ กล่าว
ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือน ก.ย.65 มีจำนวนทั้งสิ้น 74,150 คัน เพิ่มขึ้น 15.64% จากเดือน ก.ย.64 เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวจากการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศได้สะดวกขึ้นหลายล้านคน การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเช่นคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น การส่งออกที่เติบโตต่อเนื่องมาหลายเดือน การประกันรายได้เกษตรกร รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น รวมทั้งมีรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาขายด้วย และเพิ่มขึ้น 8.71% จากเดือน ส.ค.65 และช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มียอดขายรวม 633,687 คัน เพิ่มขึ้น 19.13% จากช่วงเดียวกันของปี 64
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ในเดือน ก.ย.65 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่ 2,210 คัน เพิ่มขึ้น 275.85% จากเดือน ก.ย.64, ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 6,718 คัน เพิ่มขึ้น 176.01% จากเดือนก.ย. 64, ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,083 คัน เพิ่มขึ้น 79.60% จากก.ย.64
"ทิศทางของยานยนต์ไฟฟ้าในปีนี้มีอัตราเติบโตได้ดีมาก โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นรถโดยสารและรถบรรทุก ภาพรวมทั้งประเทศเติบโต 11.9% ขณะที่ทั่วโลกตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 13%" นายสุรพงษ์ กล่าว
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มที่ดีขั้นต่อเนื่อง สังเกตจากอัตราการเติบโตของประเทศคู่ค้าที่ขยายตัวได้ดีมาก ขณะที่ยอดขายในประเทศก็ดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การประกันรายได้สินค้าเกษตร การฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยว การปรับขึ้นค่าแรง ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องอัตราเงินเฟ้อ แต่ไม่มีปัญหารุนแรงเหมือนในสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ