นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน - 25 ตุลาคม 2565 ณ เวลา 09.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 21,997,577 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9,763,514 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 12,234,063 ราย ซึ่งจำนวนผู้ลงทะเบียนข้างต้นเป็นเพียงจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น โดยการเป็นผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ อีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ การลงทะเบียนตามโครงการฯ เป็นการลงทะเบียนรายบุคคล (ผู้ลงทะเบียน) แต่การตรวจสอบจะตรวจสอบทั้งรายบุคคลและสมาชิกในครอบครัว โดยขั้นตอนแรกจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ (เกณฑ์บุคคล) หากผู้ลงทะเบียนผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์บุคคลโดยมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของเกณฑ์ครอบครัว (ในกรณีที่มีคู่สมรสหรือบุตร) ซึ่งหากพบว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ครอบครัว จะถือว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านคุณสมบัติและผู้ลงทะเบียนจะไม่ได้รับสิทธิตามโครงการฯ
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนได้จนถึงวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565 โดยสามารถลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั่วประเทศ หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 23.00 น. ของทุกวัน
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว และมี "สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์" สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ/สำนักงานเขต โดยหากพบว่าข้อมูลไม่ถูกต้อง ขอให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง หรือหากพบว่าข้อมูลที่ลงทะเบียนไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เช่น จำนวนบุตรที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มีจำนวนมากกว่าข้อมูลบุตรที่ลงทะเบียนไว้ เป็นต้น ให้ติดต่อแก้ไข โดยหากเป็นผู้ที่ลงทะเบียนที่หน่วยงานรับลงทะเบียน จะต้องติดต่อขอแก้ไขข้อมูล ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนไว้แล้วเท่านั้น และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ สามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนใดก็ได้ โดยจะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2565
นายพรชัย ย้ำว่า กระทรวงการคลังได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้สนใจ โดยเปิดช่องทางให้สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ได้ รวมถึงได้มีการขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ตกหล่นจากการลงทะเบียนในรอบที่ผ่านมา ให้มีโอกาสได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งส่งผลให้มีจำนวนผู้ลงทะเบียนเพิ่มขึ้นจากรอบที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์สวัสดิการ จะต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามที่โครงการฯ กำหนดด้วย ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบในขั้นตอนต่อไป