รัฐบาลเตรียมลงนามแผนปฏิบัติการร่วมหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย-ออสเตรเลีย 1 พ.ย.นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 25, 2022 16:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลเตรียมลงนามแผนปฏิบัติการร่วมหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย-ออสเตรเลีย 1 พ.ย.นี้

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ค.ศ. 2022-2025 (Joint Plan of Action to Implement the Thailand-Australia Strategic Partnership 2022-2025) โดยร่างแผนปฏิบัติการฉบับนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศ ได้ลงนามในปฏิญญาร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

สาระสำคัญของร่างแผนปฏิบัติการฉบับนี้ เป็นแผนงานในการขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกมิติระหว่างไทยและออสเตรเลีย มีระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ. 2565 - 2568) ขับเคลื่อนผ่านกิจกรรมและโครงการต่างๆ ในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ครอบคลุมความร่วมมือรอบด้าน ได้แก่

(1) ด้านการเมือง การทหาร และความมั่นคงรูปแบบใหม่ รวมถึงการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด และการค้ามนุษย์

(2) ด้านเศรษฐกิจ รวมถึงสาขาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว และเศรษฐกิจดิจิทัล

(3) ความร่วมมือรายสาขา อาทิ สาธารณสุข เกษตร การศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการวิจัย พลังงาน สิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการภัยพิบัติ

(4) ความเชื่อมโยงระดับประชาชน

(5) ความร่วมมือระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค

โดยปฏิญญาฯ ดังกล่าว ได้กำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศของทั้ง 2 ฝ่าย จัดทำร่างแผนปฏิบัติการร่วมฯ เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างกัน

ทั้งนี้ จะมีการลงนามร่างแผนปฏิบัติการร่วมฯ ในระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ น.ส.เพนนี หว่อง รมว.ต่างประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2565 เพื่อหารือทวิภาคีกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ และเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

"วันที่ 19 ธันวาคม 2565 จะครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ออสเตรเลีย 70 ปี ซึ่งร่างแผนปฏิบัติการฉบับนี้ ถือเป็นการยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและออสเตรเลีย รวมถึงเป็นแผนงานในการขับเคลื่อนความร่วมมือของทั้งสองประเทศในทุกมิติและสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และหลังการระบาดของโรคโควิด-19" รองโฆษกรัฐบาล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ