IMF หั่นคาดการณ์ศก.โลก คาดโตเพียง 3.7% ขณะศก.สหรัฐขยายตัวแค่ 0.5%ปีนี้

          กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ เนื่องจากทั่วโลกได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเงินที่รุนแรงที่สุดในสหรัฐ นับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ในช่วงค.ศ. 1930
          IMF กล่าวในรายงาน "IMF Background Paper on the Update of the Global and Regional Outlook'' ว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 3.7% ในปี 2551 ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.ที่ 4.15
          "วิกฤตการณ์ด้านการเงินซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐตั้งแต่เดือนส.ค.2550 ได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว และแพร่กระจายในวงกว้างกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเสียหายต่อตลาดและสถาบันการเงินที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของระบบการเงิน และวิกฤตการณ์ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่" IMF กล่าว
          ทั้งนี้ IMF เชื่อว่า มีโอกาส 25% ที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงแตะระดับ 3% หรือน้อยกว่าในปีนี้และปีหน้า           
          "ปัจจัยเสี่ยงที่น่ากังวลมากที่สุดคือ สถาบันการเงินอีกหลายแห่งที่ยังไม่ยอมเปิดเผยสถานะทางการเงินที่แท้จริง โดยเฉพาะสถาบันการเงินที่ขาดทุนมูลค่ามหาศาลในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐและในตลาดประเภทอื่นๆ ซึ่งการปิดบังและบิดเบือนข้อมูลที่แท้จริงจะสร้างความเสียหายต่อระบบการเงิน และจะฉุดรั้งให้เศรษฐกิจโลกย่ำแย่ลงอีก" IMF กล่าว
          ในรายงานฉบับนี้ IMF ประกาศลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.5% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.ที่ 1.5% และคาดว่าในปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 0.6%
          นอกจากนี้ คาดการณ์เศรษฐกิจในทวีปยุโรปจะขยายตัวเพียง 1.3% ในปีนี้ ลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 1.6% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน