รฟม.แจงทุกประเด็นปม BTSC ค้านรถไฟฟ้าสายสีส้ม ยืนยันศาลฯไม่ห้ามเปิดประมูลใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 27, 2022 13:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ชี้แจงตามที่มีรายงานข่าวว่า บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) มีหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เพื่อขอไม่ให้ความเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ตามประกาศเชิญชวนฯ และเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ ฉบับเดือนพฤษภาคม 2565

รฟม.ย้ำว่า การคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือน พ.ค.65 ได้ผ่านการตรวจสอบจากกระบวนยุติธรรม และการตรวจสอบจากตัวแทนภาคเอกชนที่มีวัตถุประสงค์ในการต่อต้านคอร์รัปชันที่น่าเชื่อถือ ตามหลักการข้อตกลงคุณธรรม มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เปิดกว้างให้เอกชนสามารถร่วมแข่งขันเสนอราคา และการดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปตามขอบเขตอำนาจที่กฎหมายกำหนด

ในการเปิดประมูลรอบใหม่- BTSC ได้ซื้อเอกสารคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ แต่เมื่อถึงกำหนดยื่นเอกสารข้อเสนอวันที่ 27 ก.ค.65 กลับมีเพียงเอกชน 2 รายที่ยื่นข้อเสนอ ได้แก่ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และ กลุ่ม บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) การที่ BTSC ไม่ยื่นเอกสารข้อเสนอไม่ว่าด้วยเหตุผลประการใด ทำให้ BTSC ไม่ใช่ผู้ยื่นข้อเสนอ จึงทำให้ไม่มีสิทธิได้รับการพิจารณาคัดเลือกตามกระบวนการ

สำหรับประเด็นผลการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ กรณีคณะกรรมการของ ITD นั้น รฟม.ระบุว่า ในการดำเนินการยื่นข้อเสนอตามเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) ระบุให้ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องตรวจสอบและรับรองเอกสารข้อเสนอ โดยเอกชนทั้ง 2 รายได้ยื่นหนังสือรับรองคุณสมบัติแล้ว หากปรากฏว่ามีข้อเท็จจริงใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอมีความไม่ถูกต้องหรือเป็นเท็จ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ มีสิทธิที่จะไม่ยอมรับข้อเสนอ หรือปฏิเสธที่จะทำสัญญากับเอกชนรายนั้นได้

ในประเด็นดังกล่าว ได้มีการพิจารณาแล้วเห็นว่าประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง ลักษณะของเอกชนที่ไม่สมควรร่วมลงทุนในโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 นั้น ได้กำหนดลักษณะของเอกชนที่ไม่สมควรให้ร่วมลงทุนในโครงการร่วมลงทุน โดยเอกชนที่มีลักษณะดังกล่าวไม่มีสิทธิได้รับคัดเลือกเป็นคู่สัญญาในโครงการร่วมลงทุน

ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความรอบคอบในการดำเนินการคณะกรรมการคัดเลือกฯ จึงมีข้อสรุปว่า เมื่อได้ผู้ผ่านการคัดเลือก แล้วหากพบว่ามีข้อสงสัยในประเด็นตามประกาศคณะกรรมการนโยบายร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนฯ ดังกล่าว จะได้สอบถามไปยังคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ก่อนการประกาศรายชื่อผู้ชนะการคัดเลือกต่อไป ทั้งนี้เมื่อ ITD Group ไม่ได้เป็นผู้ผ่านการคัดเลือกฯ จึงไม่ต้องดำเนินการใดๆ

ด้านประเด็นข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทนของ BTSC ที่ใช้ยื่นข้อเสนอในการคัดเลือกเอกชนตาม RFP ฉบับเดือน ก.ค.63 นั้น ข้อเสนอฯ ที่กล่าวอ้างเป็นเอกสารที่ รฟม. มิได้เปิดซอง และได้ส่งคืน BTSC แล้ว เนื่องจากได้มีการยกเลิกการคัดเลือกฯ ข้อเสนอฯ จึงไม่อยู่ในกระบวนการคัดเลือกที่ต้องตรวจสอบและประเมินด้านคุณสมบัติ และการประเมินซองข้อเสนอด้านเทคนิค เพื่อให้ รฟม. มั่นใจได้ว่าผู้ยื่นข้อเสนอจะสามารถดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ มีความปลอดภัย และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่จะเกิดต่อประเทศชาติและประชาชนได้ มิใช่การพิจารณาเพียงตัวเลขสรุปผลประโยชน์ตอบแทนให้ภาครัฐเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม รฟม. มีข้อสังเกตว่า ตัวเลขที่ BTSC กล่าวอ้างมีความแตกต่างจากผลการศึกษาที่ รฟม. นำเสนอขออนุมัติโครงการต่อคณะรัฐมนตรีไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งผลการศึกษาได้ใช้สมมติฐานทางการเงินตาม MRT Assessment Standardization ที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นสมมติฐานที่น่าเชื่อถือ และใช้ในทุกโครงการของ รฟม. รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และ สายสีเหลืองฯ ที่ BTSC ได้ยื่นข้อเสนอโดยเสนอขอรับการสนันสนุนสุทธิเป็นไปตามผลการศึกษา จนกระทั่งได้รับคัดเลือกเป็นผู้รับสัมปทาน

นอกจากนสั้น การดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ตามประกาศเชิญชวนฯ และเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ฉบับเดือนพ.ค.65 ได้ดำเนินการตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เรื่อง แนวทางปฏิบัติสำหรับการนำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้กับโครงการร่วมลงทุนที่ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2564 และประกาศสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เรื่อง ข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) โดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ตัวแทนจากภาคเอกชน ได้ส่งผู้สังเกตการณ์ 5 ท่าน เข้าร่วมในการดำเนินการทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ผู้สังเกตการณ์มีหน้าที่ต้องจัดทำรายงานผลการสังเกตการณ์ และในกรณีที่พบเห็นพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางทุจริตให้แจ้งคณะกรรมการคัดเลือกฯ โดยเร็ว เพื่อให้มีการชี้แจงหรือแก้ไขในระยะเวลาที่ผู้สังเกตการณ์กำหนด หากคณะกรรมการคัดเลือกฯ ไม่ชี้แจงหรือแก้ไข ให้ผู้สังเกตการณ์แจ้งองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เพื่อรายงานต่อ สคร. และกระทรวงเจ้าสังกัดพิจารณาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำหรับกรณีการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ซึ่งผู้สังเกตการณ์ได้เข้าร่วมการประชุมครบทุกครั้ง ไม่ปรากฏว่าคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้รับแจ้งข้อสังเกตใดจากผู้สังเกตการณ์

ส่วนกรณี BTSC ยื่นฟ้อง รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (คณะกรรมการคัดเลือกฯ) ต่อศาลปกครองและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ดังนี้

1) ประเด็น BTSC ฟ้องศาลปกครอง คดีหมายเลขดำที่ 2280/2563

  • ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งที่ 300/2564 ยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ให้จำหน่ายคดีในข้อหาที่ BTSC ฟ้องขอให้เพิกถอนหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนฯ ที่แก้ไขเพิ่มเติมและการเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติมครั้งที่ 1
  • ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 192/2565 พิพากษายกฟ้องในข้อหาที่ BTSC ฟ้องว่าการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ฯ เป็นการละเมิด เรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 500,000 บาท ปัจจุบันข้อหานี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากคู่ความได้ยื่นอุทธรณ์

2) ประเด็น BTSC ฟ้องศาลปกครอง คดีหมายเลขดำที่ 580/2564

  • ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งที่ 354/2564 ยืนตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นที่มีคำสั่งไม่รับฟ้องในข้อหาที่ BTSC มีคำขอให้ศาลพิพากษาห้าม รฟม. กระทำการที่เกี่ยวกับการคัดเลือกเอกชนครั้งใหม่
  • ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 1455/2565 พิพากษา เพิกถอนการยกเลิกการคัดเลือกเอกชนฯ ตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือน ก.ค.63 แต่คำพิพากษาดังกล่าว ยังไม่มีผลบังคับจนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามมาตรา 70 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ปัจจุบัน ข้อหานี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากคู่ความได้ยื่นอุทธรณ์
  • บริษัทเอกชน 2 รายที่ได้ยื่นข้อเสนอฯ ตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือน ก.ค.63 ได้รับซองข้อเสนอกลับคืนไปแล้ว จึงไม่สามารถกลับไปดำเนินการได้อีก

3) ประเด็น BTSC ฟ้องศาลปกครองคดีหมายเลขดำที่ 1646/2565

  • ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอให้มีคำสั่งทุเลาการบังคับคดีตามที่ BTSC ร้องขอ โดยตุลาการศาลปกครองกลาง เห็นว่าการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนเพื่อประกอบการจัดทำประกาศเชิญชวนฯ และประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือน พ.ค.65 ดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน การกำหนดคุณสมบัติ และหลักเกณฑ์ด้านการก่อสร้างงานโยธาในระดับสูงเป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ประกาศเชิญชวนฯ มีการเปิดกว้างให้เอกชนเข้าร่วมในการคัดเลือกมากขึ้นกว่าประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือน ก.ค.63 และประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือน พ.ค.65 ไม่มีลักษณะเป็นการตัดสิทธิหรือกีดกัน BTSC มิให้เข้าร่วมยื่นข้อเสนอ แต่ BTSC ไม่ยื่นเอกสารข้อเสนอไม่ว่าด้วยเหตุผลประการใด ทำให้ BTSC ไม่ใช่ผู้ยื่นข้อเสนอจึงทำให้ไม่มีสิทธิได้รับการพิจารณาคัดเลือกตามกระบวนการ

4) ประเด็น BTSC ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ คดีหมายเลขดำที่ อท30/2564

  • ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำพิพากษา คดีหมายเลขแดงที่ อท133/2565 ระหว่าง BTSC เป็นโจทย์ฟ้องนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ รวม 7 คน เป็นจำเลยในความผิดต่อหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 กรณีที่มีการแก้ไขหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ

โดยศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า ผู้ว่าการ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้แก้ไขหลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอ ฉบับเดือน ก.ค.63 ตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดในพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 และเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน การแก้ไขหลักเกณฑ์เป็นไปเพื่อประโยชน์ของรัฐ ไม่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอรายใด และกรณีที่มีการยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือน ก.ค.63 ไม่มีเจตนากลั่นแกล้งโจทย์หรือกระทำนอกขอบเขตของกฎหมาย ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จึงไม่มีมูลความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

จากข้อเท็จจริงในการดำเนินคดี ไม่ปรากฏว่ามีบทกฎหมาย ห้ามมิให้ รฟม. หรือคณะกรรมการคัดเลือกฯ ดำเนินการคัดเลือกเอกชนครั้งใหม่ตามอำนาจหน้าที่แต่อย่างใด การดำเนินการคัดเลือกเอกชนครั้งใหม่นี้ จึงเป็นกรณีที่ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการทางกฎหมาย เพื่อให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ซึ่งเป็นการจัดทำบริการสาธารณะ สามารถดำเนินการได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ อันเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของรัฐและประชาชน มิใช่ต้องหยุดชะงักลงเพียงเพราะการดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นไปตามความประสงค์ของเอกชนรายใดรายหนึ่ง อนึ่ง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็นส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ