นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในมหกรรมการออม ประจำปี 2565 ธนาคารได้ออกนวัตกรรมเงินฝากที่ผู้ฝากเงินจะได้รับสิทธิประโยชน์มากเป็นพิเศษ ถึง 2 ประเภท ได้แก่ เงินฝากเผื่อเรียกเพื่อการเกษียณ 7 ปี และเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 13 เดือน
สำหรับเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษเพื่อการเกษียณ 7 ปี เป็นเงินฝากระยะยาว รับฝาก 7 ปี สำหรับเก็บออมไว้ใช้ในยามเกษียณ รับฝากเฉพาะบุคคลธรรมดา เริ่มต้นฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท กำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบ Step Up จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามช่วงเวลาที่ธนาคารกำหนด สูงสุด 10.00% ต่อปี ในปีที่ 7 คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.21% ต่อปี (ดอกเบี้ยไม่เสียภาษี) เทียบเท่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3.77% ต่อปี เปิดลงทะเบียนจองสิทธิ์รับฝากที่ เว็บไซต์ www.gsb.or.th หรือ Line Official : GSB Society ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. เป็นต้นไป จนกว่าจะหมดวงเงิน
ส่วนเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 13 เดือน มีระยะเวลาฝาก 13 เดือน รับฝากบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลทุกประเภท เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท ไม่จำกัดวงเงินฝาก อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนจูงใจด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบ Step Up จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามช่วงเวลาที่ธนาคารกำหนด สูงสุด 4.50% กำหนดอัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1-6 = 0.75% ต่อปี เดือนที่ 7-12 = 1.00% ต่อปี และเดือนที่ 13 = 4.50% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.15% ต่อปี (ผู้ฝากบุคคลธรรมดาดอกเบี้ยไม่เสียภาษี) ซึ่งเทียบเท่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1.35% ต่อปี เปิดรับฝากตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นายวิทัย กล่าวด้วยว่า ธนาคารได้เปิดตัวบริการใหม่ แอปพลิเคชั่น "โค้ชออม" ซึ่งเป็นตัวช่วยวางแผนการออม ให้ผู้ใช้แอป สามารถทดลองคำนวณปริมาณเงินออมตามเป้าหมายต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง และยังสามารถปรับแผนการออมเมื่อผลลัพธ์การคำนวณพบว่าปริมาณเงินออมยังไม่เพียงพอ โดยผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Android สามารถดาวน์โหลด และทดลองใช้แอปพลิเคชั่น "โค้ชออม" ได้แล้วที่ Google Play Store และ iOS ภายในเดือนธันวาคม 2565 นี้
"ด้วยเครื่องมือนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้แอปได้เรียนรู้ และทราบถึงสถานะการออมของตนเองอย่างง่าย ๆ และสามารถนำไปปรับใช้วางแผนการออม ทั้งที่เป็นเป้าหมายการออมระยะสั้น หรือการออมระยะยาว เพื่อให้มีเงินเพียงพอต่อคุณภาพชีวิตที่ดีหลังเกษียณ (Sufficient Retirement Saving)" ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าว
พร้อมระบุว่า วันนี้ธนาคารออมสิน ได้จัด "มหกรรมการออม ประจำปี 2565" เนื่องในโอกาสวันออมแห่งชาติ 31 ตุลาคม 2565 ซึ่งภารกิจหลักของธนาคารออมสิน คือการส่งเสริมการออมของประชาชน ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งธนาคาร โดยดำเนินการผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝาก และสลากออมสิน ที่จูงใจลูกค้าให้ออมโดยดอกเบี้ยที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษี และมีความมั่นคงด้วยมีรัฐบาลเป็นประกันเต็มวงเงินฝาก แต่ด้วยปัจจุบัน ประเทศไทยได้เข้าสู่สภาพสังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ ธนาคารจึงได้ขยายบทบาทการส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมเพื่อเป้าหมายต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการวางแผนเกษียณด้วย
นายวิทัย ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งจะมีการประชุมอีกครั้งในช่วงปลายเดือนพ.ย. เป็นครั้งสุดท้ายในปี 65 ว่า ในส่วนของธนาคารออมสิน จะมาพิจารณาอีกครั้ง โดยดูว่า กนง.จะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% หรือ 0.50% และต้องดูทิศทางของธนาคารอื่นๆ ด้วย แต่ในภาพรวม ธนาคารออมสินพยายามจะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด และหากช่วยได้ก็จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากให้แก่ลูกค้าด้วย