นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. .... โดยเป็นการปรับปรุงคุณสมบัติของผู้ขอใบอนุญาตผลิตสุรา รวมทั้งปรับปรุงขั้นตอน และวิธีการขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตสุรา ให้สอดคล้องกับบริบทของธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตสุราในปัจจุบันให้มากขึ้น
โดยร่างกฏกระทรวงดังกล่าว มีสาระสำคัญดังนี้
1. ปรับปรุงคุณสมบัติของผู้ขอใบอนุญาตผลิต
- กรณีสุราแช่ เช่น น้ำตาลเมา อุ เบียร์ ไวน์ สปาร์กลิ้งไวน์ และสุราแช่พี้นเมือง โดยยกเลิกการกำหนดจำนวนทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์ ยังต้องเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฏหมายไทยและมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 51%
- กรณีสุรากลั่น เช่น สุราขาว เพิ่ม โรงงานอุตสาหกรรมสุรากลั่นขนาดกลางที่ใช้เครื่องจักรไม่เกิน 50 แรงม้า หรือใช้คนงานน้อยกว่า 50 คน จากเดิม เป็นโรงงานที่มีขนาดเครื่องจักรไม่เกิน 5 แรงม้า หรีอใช้คนงานน้อยกว่า 7 คน หรีอโรงงานไซส์ S ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ โดยจะทำให้กำลังการผลิตและคุณภาพดีขึ้น
2. ยกเลิกการกำหนดกำลังการผลิตขั้นต่ำของโรงอุตสาหกรรมสุราแช่ ชนิดเบียร์ จากที่กำหนดกำลังผลิตต้องไมต่ำกว่า 1 แสนลิตร/ปี และไม่เกิน 1 ล้านลิตร/ปี เป็น เป็นโรงงานตามกฏหมายว่าด้วยโรงงานหรือใช้เครื่องจักรอุปกรณ์การผลิตสุราแช่ ชนิดเบียร์ที่มีมาตรฐานตามที่อธิบดีกรมลรรพสามิตประกาศ แต่ยังให้คงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขกำลังการผลิตขั้นต่ำตามเดิม
ในส่วนโรงอุตสาหกรรมผลิตสุรากลั่น ชนิดสุราพิเศษ เช่น วิสกี้ บรั่นดี และยิน ไม่ต่ำกว่า 30,000 ลิตร/วัน และโรงอุตสาหกรรมผลิตสุรากลั่นชนิดอื่น ๆ เช่น สุรากลั่นชนิดสุราขาว และองค์การสุรา ไม่ต่ำกว่า 90,000 ลิตร/วัน รวมทั้งให้เพิ่มเติมให้เป็นไปตามกฏหมายว่าด้วยโรงงาน
ทั้งนี้ ยังเพิ่มเติมขั้นตอนและวิธีการในการขออนุญาต โดยให้สามารถยื่นคำขอรับใบอนุญาตผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ร่างกฎกระทรวงการผลิตสุราฉบับ เป็นการแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ.2560 เพื่อทำให้การผลิตสุราดำเนินการได้ง่ายขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก ปลดล็อกทั้งในเรื่องทุนจดทะเบียนและกำลังการผลิตขั้นต่ำ ยกระดับสุราชุมชนจากขนาดเล็กไปสู่ขนาดกลาง ซึ่งจะเป็นการช่วยให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ เปิดโอกาสธุรกิจให้เติบโตสามารถขยายกิจการได้
รวมถึงเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการนำสินค้าเกษตรมาแปรรูป และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อย่างไรก็ดี กรมสรรพสามิตยังคงให้ความสำคัญและคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัย สาธารณสุข สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงมีกรอบการปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและผลกระทบตามมา
รมว.คลัง กล่าวว่า ร่างกฎกระทรวงการผลิตสุราฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. เปิดโอกาสให้สุราชุมชนขนาดเล็ก จากที่ต้องใช้เครื่องจักรในการผลิตต่ำกว่า 5 แรงม้า และใช้คนงานน้อยกว่า 7 คน ให้สามารถขยายกำลังการผลิตเป็นระดับกลาง ที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังการผลิตสูงกว่า 5 แรงม้า แต่ไม่เกิน 50 แรงม้า และสามารถใช้คนงานมากกว่า 7 คนได้ แต่ต้องไม่เกิน 50 คน
แต่ทั้งนี้ ผู้ผลิตสุราชุมชนที่จะขยายกำลังการผลิตจากระดับเล็กเป็นระดับกลาง จะต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ หรือสุรากลั่นชุมชนขนาดเล็กมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เคยกระทำความผิดตามกฎหมายภาษีสรรพสามิต หรือเคยกระทำความผิดและพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี นอกจากนี้ ต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด และปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง
2. ยกเลิกการกำหนดกำลังการผลิตขั้นต่ำ และทุนจดทะเบียน สำหรับทั้งกรณีผลิตเบียร์เพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต (Brewpub) และโรงงานผลิตเบียร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเดิมนั้น ในกรณีผลิตเบียร์เพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต (Brewpub) จะต้องมีขนาดการผลิตไม่ต่ำกว่า 100,000 ลิตรต่อปีและไม่เกิน 1 ล้านลิตรต่อปี และกรณีโรงงานผลิตเบียร์ขนาดใหญ่ ต้องมีขนาดการผลิตไม่ต่ำกว่า 10 ล้านลิตรต่อปี สำหรับทุนจดทะเบียนนั้น ต้องไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ กรณีผลิตเบียร์เพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต (Brewpub) ต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด และปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง
3. เปิดโอกาสให้บุคคลธรรมดาที่มีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และนิติบุคคล สามารถขอใบอนุญาตผลิตสุราที่มิใช่เพื่อขาย แลกเปลี่ยน หรือดำเนินการอื่นใดโดยได้รับประโยชน์ตอบแทน และต้องมีปริมาณการผลิตสุราไม่เกิน 200 ลิตรต่อปี อย่างไรก็ดี สถานที่ผลิตสุราต้องมีพื้นที่เพียงพอที่จะผลิตสุราโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย เหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น และมิใช่สถานที่ผลิตสุราของผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุรารายอื่น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของการบริโภคสุราและมิติของสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
รมว.คลัง กล่าวว่า การเสนอร่างกฎกระทรวงการผลิตสุราฯ ดังกล่าวมีการปรับลดข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจให้กับผู้ประกอบการขนาดเล็กให้สามารถขยายกำลังการผลิตส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจโดยภาพรวมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมสินค้าเกษตรให้สามารถนำมาแปรรูปได้ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมและรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นสืบไป
อย่างไรก็ดี กรมสรรพสามิต ยังคงเน้นและให้ความสำคัญในเรื่องมาตรการการควบคุมด้านคุณภาพ ด้านสาธารณสุข และด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากไม่มีการควบคุมและมีสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานออกมาสู่ผู้บริโภค อาจทำให้เกิดผลเสียต่อผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ การผลิตสุราก่อให้เกิดของเสียจากกระบวนการผลิต อาทิ การกำจัดกากขยะและน้ำเสีย ซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การให้ความสำคัญในเรื่องของสถานที่ตั้ง และการควบคุมกระบวนการผลิต ความสะอาด และสุขอนามัย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้เป็นไปตามกฎระเบียบตามที่กำหนด เพื่อไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งการรักษามาตรฐานความปลอดภัยที่กรมสรรพสามิตได้กำหนดขึ้นมานั้น เป็นไปตามที่ถือปฏิบัติเป็นสากล และเป็นสิ่งที่ทั่วโลกต่างก็ให้ความสำคัญเ
"การดำเนินการข้างต้น เป็นการเปิดโอกาสให้รายเล็กสามารถเติบโตได้โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเงินทุน และกำลังการผลิต แต่ยังคงต้องให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพสินค้า ความปลอดภัย กระบวนการผลิต เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในด้านสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม" นายอาคม กล่าว