พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์ เห็นว่า การที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ จะนำข้าวขาว 5% จำนวน 6.5 แสนตัน จากในสต๊อกรัฐที่มีอยู่ 2.1 ล้านตัน มาผลิตเป็นข้าวสารบรรจุถุงนั้น ถือว่าเป็นปริมาณที่มากเกินไป แต่ควรจะนำออกมาทำข้าวบรรจุถุงเพียง 3 แสนตัน และนำออกจำหน่ายในช่วงระยะเวลา 1-2 เดือนนี้เท่านั้น
ทั้งนี้เห็นว่าข้าวส่วนที่เหลือในสต๊อกควรจะเปิดประมูลขายให้แก่ผู้ส่งออก เพราะขณะนี้ราคาส่งออกข้าวขาว 5% อยู่ที่ 661เหรียญ/ตัน หรือ 19,000 บาท แต่ข้าวที่รัฐจะนำมาทำเป็นข้าวถุงต้นทุนอยู่ที่ 15,000 บาท/ตัน ราคาห่างกันถึง 4,000 บาท/ตัน ซึ่งหากขายเพื่อส่งออกจะทำให้รัฐบาลได้กำไรเพิ่มขึ้น และนำเงินดังกล่าวมาช่วยเหลือเกษตรกรที่เดือดร้อนได้ดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ตามห้างค้าปลีกขนาดใหญ่พบว่าข้าวสารบรรจุถุงเริ่มขาดตลาดโดยเฉพาะข้าว 5% และข้าวหอมมะลิที่หลายยี่ห้อหมดสต๊อกและไม่มีจำหน่ายเพิ่ม เพราะประชาชนซื้อในปริมาณมากกว่าปกติ ทำให้บางห้างจำเป็นต้องจำกัดปริมาณการซื้อต่อครอบครัว เพื่อให้มีการกระจายข้าวไปถึงมือผู้บริโภคอย่างทั่วถึง
ด้านนายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย ยืนยันว่า กรณีที่ข้าวถุงในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ขาดตลาดไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ผลิต เพราะผู้ผลิตได้ผลิตและจัดส่งเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องตามราคาเดิม บางรายผลิตและส่งให้ห้างเพิ่มถึง 10-20% ตามที่ห้างขอมา จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาการขาดตลาด และไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนกจนต้องรีบซื้อข้าวไปกักตุน
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ คาดว่า ราคาข้าวในตลาดโลกจะสูงขึ้นอีก หลังจากที่อินเดียหยุดส่งออกข้าวตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.จากเดิมกำหนดราคาส่งออกขั้นต่ำที่ 1,000 ดอลลาร์/ตัน แต่ปัญหาขณะนี้คือผู้ส่งออกไทยไม่มีข้าวจะส่งออก โดยล่าสุดมีสต๊อกรวมกันเพียง 1 ล้านตัน ส่วนข้าวนาปรังที่จะออกมาอีก 6 ล้านตันในเดือนมี.ค.-มิ.ย.ถูกพ่อค้าคนกลาง โรงสี และนายทุนท้องถิ่นกว้านซื้อไปเก็งกำไรหมดแล้ว
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--