ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วง หลัง"เบอร์นันเก้"ยอมรับศก.สหรัฐมีแนวโน้มถดถอย

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 3, 2008 07:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ปอนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลีย หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.5682 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.5609 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.9869 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9756 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.7906 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7861 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9147 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9069 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 102.38 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 101.83 เยน/ดอลลาร์
เบอร์นันเก้แถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการแห่งสภาคองเกรส โดยเขายอมรับเป็นครั้งแรกว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นในปลายปีนี้ เพราะได้รับปัจจัยบวกจากการที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแล้วหลายครั้ง และการใช้มาตรการด้านอื่นๆในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ เบอร์นันเก้ชี้แจงว่าสาเหตุที่เฟดยื่นมือเข้าแทรกแซงวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับแบร์ สเติร์นส์ด้วยการจัดหาเงินทุนให้กับเจพีมอร์แกนเพื่อเข้าซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์นั้น ก็เพราะเกรงว่ากรณีของแบร์ สเติร์นส์อาจสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดและอาจลุกลามจนยากที่จะควบคุม
เมื่อวานนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.5% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.ที่ 1.5% และคาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 0.6%
ขณะเดียวกัน IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะยายตัวเพียง 3.7% ในปี 2551 ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.ที่ 4.15% เนื่องจากทั่วโลกได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเงินที่รุนแรงที่สุดในสหรัฐ นับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ในช่วงค.ศ. 1930

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ